วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลเลือกตั้งสหรัฐ & ภาคบริการ EU/JP เดือน ต.ค.
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหวตามการประกาศ ผลเลือกตั้งสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับขึ้น (ลง) หาก Harris (Trump) ชนะการเลือกตั้ง แนวต้าน 1,494/1,506 จุด แนวรับ 1,473/1,466 จุด (EMA 10 วัน) ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,273-1,716 จุด
ส่วนแนวโน้มระยะสั้น เกิดสัญญาณ Up Trend ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิม 1,506 จุด หลังจากสิ้นสุดแนวโน้มขาลงและเกิดจุดวกกลับมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ตามด้วยการเกิด Long White Candlestick วานนี้ ทั้งนี้ ทาง Tactical Play แนะนำ เก็งกำไรเป็นรายหลักทรัพย์ กลุ่มเอียง Trump แนะนำ DELTA KBANK PTTEP TOP ส่วนกลุ่มเอียง Harris แนะนำ GULF TRUE MTC SIRI
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
3Q24E Earnings Results: US โดย Consensus คาด Qualcomm USD2.55 Vs Previous USD2.02; Gilead Sciences USD1.53 Vs Previous USD2.29; CVS Health USD1.61 Vs Previous USD2.21; Mckesson USD6.93 Vs Previous USD6.23; TH จับตารายงานผลกำไรของ BCPG ITC OR
เลือกตั้งสหรัฐ US Election: คาดทราบผล Exit Poll วันนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก แบ่งเป็น
1. กรณีที่ ทรัมป์ Trump ได้รับชัยชนะ พร้อมพรรครีพับลิกันได้คะแนนเสียงข้างมาก ทั้งสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา (Worst Case Scenario) คาดเป็นลบต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย มีโอกาสร่วงลงไปทดสอบแนวรับ 1,414/1,400 จุด (EMA 75 วัน และ 200 วัน) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดีกว่ากลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ กลุ่มรับผลบวกจากการแข็งค่าของ USD ได้แก่ กลุ่มส่งออก AAI ITC TU CPF ฯลฯ กลุ่มรับผลบวกจากดอกเบี้ยเฟดลดได้ช้าลง ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ประกันฯ KBANK SCB BLA TLI กลุ่มอิงน้ำมันดิบโลก (ทรัมป์สนับสนุนการใช้ Fossil Fuel) PTTEP BANPU และกลุ่มนิคมฯ AMATA WHA (รับการย้ายฐานลงทุนเพิ่มขึ้น)
2. กรณี แฮร์ริส Harris ได้รับชัยชนะ และพรรคเดโมแครต ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ แต่พรรครีพับลิกัน ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย (คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มรีบาวนด์ไปทดสอบระดับสูงสุดเดิม 1,506 จุด) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเด่น จะอิงจากการรับผลบวกวงจรดอกเบี้ยขาลงของเฟดที่มีต่อเนื่อง & การกลับมาแข็งค่าของสกุลเอเชียเทียบ USD ได้แก่ กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD MTC TIDLOR กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ AP SPALI SIRI กลุ่ม PF&REIT CPNREIT 3BBIF กลุ่มนำเข้า ICT (TRUE ADVANC SYNEX SIS ADVICE) กลุ่มลงทุนสูง ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า (GULF BGRIM GPSC)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
Japan: (Jibun Bank) รายงานภาคบริการ เดือน ต.ค. อยู่ที่ 49.3 (Previous 53.1) ส่วน Composite PMI เดือน ต.ค. คาดลดลงเข้าสู่ภาวะหดตัว (<50) ที่ 49.4 (Vs Preivous 52.0)
EU: HCOB รายงานภาคบริการ และ Composite PMI เดือน ต.ค. คาดอยู่ที่ 51.2/49.7 (Vs Previous 51.4/49.6) สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ๆ ทั้งนี้ จับตาสุนทรพจน์ของประธานอีซีบี Lagarde วันนี้ ต่อแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยของอีซีบีในการประชุมครั้งต่อไป
Thailand: Inflation Rate / Core Inflation Rate เดือน ต.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น +0.97% YoY/0.78% YoY (Vs Previous 0.61% YoY/0.77%YoY) เงินเฟ้อในช่วงปลายปีมีแนวโน้มสูงขึ้น จากผลพวงของสถานการณ์อุทกภัย ที่ทำให้พื้นที่เพาะปลูกพืชผักบางส่วนได้รับความเสียหาย จึงทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้านที่ราคาสูงขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้: แนะนำ AMATA AAI TLI
Strategic daily picks
AMATA ปิด 29.25 บาท/แนวรับ 28.00 บาท แนวต้าน 31.00 บาท
เริ่มเห็นสัญญาณการโอนที่ดินที่สูง คาดยอดโอน 3Q24E ที่ 452 ไร่ (ไทย 362 ไร่, เวียดนาม 90 ไร่) โดยส่วนใหญ่เป็นนิคมในระยองจำนวน 300 ไร่ ที่คาดมาจากยอดขายในช่วง 1H23 เป็นหลัก สะท้อนระยะเวลาในการโอนที่เริ่มเร็วขึ้น ส่งผลให้ยอดโอนที่ดินจะมากกว่าที่เราคาดเดิมตั้งแต่ 4Q24E ทั้งนี้ KTX ประเมินกำไรปกติ 3Q24 ที่ 778 ล้านบาท (+53% YoY, +188% QoQ) และ Bloomberg Consensus ที่ 31.21 บาท
AAI ปิด 6.15 บาท/แนวรับ 5.80 บาท แนวต้าน 6.90 บาท
KTX คาดกำไรสุทธิของ AAI ใน 3Q24E จะอยู่ที่ 298 ล้านบาท (+152% YoY, -1% QoQ) โดยการเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY ดังกล่าวควรได้รับแรงหนุนจากทั้งการขยายตัวของรายได้และความสามารถในการทำกำไร คาดว่ารายได้ใน 3Q24E จะอยู่ที่ 1,758 ล้านบาท (+29% YoY, +2% QoQ) ซึ่ง KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2025 ที่ 7.17 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวังที่ 7.22%
TLI ปิด 10.90 บาท/แนวรับ 10.50 บาท แนวต้าน 11.60 บาท
ใน 1H24 บริษัทมีมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) ที่ 3.33 พันล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นถึง 6.1 จุด หรือมีอัตราสูงถึง 63.7% และมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 4.05 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มยอดขายใน 2H24 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรกับธนาคารรายใหญ่ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (+9.31% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 13.18 บาท