วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BAFS ประมาณการ 3Q67F: ปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น
คาดว่ากำไรสุทธิของ BAFS ใน 3Q67F จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท (ฟื้นตัวขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิ 3 ล้านบาทใน 3Q66, -8% QoQ) ผลประกอบการที่ดีขึ้น YoY จะเป็นเพราะคาดปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็น 1,220 ล้านลิตร (+17% YoY)
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 21% YoY เป็น 8.6 ล้านคนใน 3Q67 ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะคาดอัตราภาษีจ่ายจริงเพิ่มขึ้นจาก 35% เป็น 57% ใน 3Q67F เพระมีการล้าง deferred tax assets (DTA) ซึ่งคาดว่าจะไม่ใช้งานอีกในอนาคตออกไปบางส่วน แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินของ BAFS จะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% QoQ เป็น 1,220 ล้านลิตร ซึ่งโตน้อยเพราะอยู่ในช่วง low season ของการท่องเที่ยวไทย นอกจากนี้ เราคาว่าปริมาณการขนส่งเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้น 12% QoQ เป็น 320 ล้านลิตร เพราะมีการส่งน้ำมันผ่านท่อเพิ่มขึ้นจาก Bangchak Corporation (BCP.BK/BCP TB)* หลังจากที่ BCP กลับมาเปิดดำเนินการโรงกลั่นพระโขนงจากที่ปิดซ่อมบำรุงไป 27 วันในเดือนพฤษภาคม ดังนั้นเราจึงคาดว่ารายได้จากธุรกิจเติมน้ำมันเครื่องบินและการขนส่งเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้น 4% QoQ เป็น 775 ล้านบาท ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมของทั้งสองธุรกิจจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จาก 43.6% เป็น 45.0%
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F/2568F ลง 30%/23%
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F ลง 30% เหลือ 295 ล้านบาท และปี 2568F ลง 23% เหลือ 535 ล้าน
บาท เนื่องจาก i) ปริมาณยอดขายน้ำมันเครื่องบินลดลง และ ii) กำไรจากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในประเทศไทยลดลง เราปรับลดสมมติฐานปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินของ BAFS ปีนี้ลง 2% เหลือ 5,000 ล้านลิตร และปีหน้าลง 4% เหลือ 5,330 ล้านลิตร สอดคล้องกับเป้าปีนี้ของผู้บริหารที่ 5,000 ล้านลิตร นอกจากนี้ เรายังปรับประมาณการกำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในปี 2567F-2568F ลง 23% เหลือ 130 ล้านบาทในปีนี้ และ 129 ล้านบาทในปีหน้า หลังจากที่กำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใน 1H67 ลดลง 35% YoY เหลือ 71 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะ solar adder ที่ 6.50 บาทต่อหน่วย ของโรงไฟฟ้า solar
แห่งหนึ่งที่มีกำลังการผลิต PPA 5.3 MW หมดอายุไป
Valuation & Action
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 19.50 บาท ลดลงจาก 30.50 บาท เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับลด
ประมาณการกำไร และ ii) การปรับวิธีประเมินมูลค่าหุ้นมาอิงกับ PE ที่ 23.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตก่อน COVID-19 ระบาดในประเทศไทย) แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำซื้อ BAFS เพราะเราคาดว่ากำไรจะโตถึง 82% YoY ในปี 2568F และ 44% YoY ในปี 2569F เนื่องจาก i) คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,330 ล้านลิตรในปี 2568F (+7% YoY) และ 5,602 ล้านลิตรในปี 2569F (+5%YoY) และ ii) จะมีการเปิดดำเนินการท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมระหว่างจังหวัดสระบุรีและอ่างทองในปี 2569F
Risks
ความผันผวนของอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง, การขนส่งน้ำมันหลายประเภทผ่านท่อส่งน้ำมันของบริษัท และสัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนที่สูงถึง 1.9x ใน 2Q67