วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สหรัฐตามคาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สหรัฐตามคาด

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสูงสุดราว 18 จุด หลังปรับตัวลงแรง 3 วันทำการ รับแรงซื้อ มากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาล และการเงิน อย่างไรก็ตามดัชนีได้รับ Sentiment เชิงลบจาก Bond Yield ของสหรัฐปรับตัวขึ้น

เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ขณะที่วานนี้นักลงทุนจับตา การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,451.47 จุด +6.40 จุด +0.44% มูลค่าการซื้อขาย 45,866.84 ลบ. Program Trading -221.49 ลบ. ต่างชาติ +165.91 ลบ. TFEX +10,172 สัญญา ตราสารหนี้ +435.08 ลบ. 

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 47.21 จุด หรือ +0.11% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุน มีความมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
+ สัญญาน้ำานดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ +0.46% ปิดที่ 68.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อเพื่อชดเชยการขายชอร์ต (short covering) หลังจากราคาน้ำมันเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปคปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้และปีหน้า
+ ดัชนี CPI ของสหรัฐฯ +2.6% YoY ในเดือนต.ค. สอดคล้องคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จาก +2.4%YoY ในเดือนก.ย. ดัชนี CPI +0.2%MoM ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับคาดการณ์จาก +0.2%MoM ในเดือนก.ย.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75.7% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. จาก ระดับก่อนหน้า 58.7%
+ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าไทยและเวียดนามจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
+ ส.อ.ท.เปิดเผยความดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นจาก เดือนกันยายนเนื่องจากน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย อานิสงส์แจกเงินหมื่นกระตุ้นยอดขายสินค้า และธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ย 

ปัจจัยลบ  

- สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนเปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯ สั่งบริษัท TSMC ให้ระงับการจัดส่งชิประดับสูงให้กับลูกค้าชาวจีนบางรายเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ กำลังเพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน
- รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลไม่ยอมทำข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน หากไม่มีการกำหนดให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องปลดอาวุธและถอนกำลังหรือหากไม่มีการทำให้ชาวอิสราเอลกลับสู่บ้านพักโดยสวัสดิภาพ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลัง CPI สหรัฐออกมาสอดคล้องกับตลาดคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในวันนี้ กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,445-1,460 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• สินค้าส่งออกเดือนก.ย.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH STGT WFX
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA
• MSCI Rebalance (ใช้ราคาปิด25 พ.ย.) : MSCI Global Standard : เข้า - ออก SCGP MSCI Global Small Cap : เข้า CCET ออก TQM

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TIDLOR "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 20 บาท upside 26%)
"กำไร 3Q67 -2%YoY 9M67 +10%YoY"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สหรัฐตามคาด

•3Q67 มีกำไร 991 ล้านบาท -2%YoY พอร์ตสินเชื่อรวม +12%YoY ทรงตัว QoQ ยอดสินเชื่อเฉลี่ยต่อสาขาปลายก.ย. 67 ขยับขึ้นเป็น 58.8 ล้านบาทจาก 58.1 ล้านบาทในปี 66 เบี้ยรับประกันเติบโต 19%YoY (เป้า 10-20% เป็นไปได้สูง) สูงกว่าค่าเฉลี่ย ของอุตสาหกรรมที่เติบโต 1%YoY งวด 9M67 มีกำไรสุทธิ 3,186 ล้านบาท +10%YoY

•ผู้บริหารประเมินว่าในช่วง 4Q67 %NPL มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จาก 3Q67 ที่ลดลงเหลือ 1.88% ทำได้ตามเป้าที่ระดับต่ำกว่า 2% รับผลดีจากโครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟสแรกให้กับกลุ่มเปราะบางทำให้ลูกหนี้นำมาชำระคืนหนี้ ประกอบกับ การปรับรูปแบบติดตามหนี้ที่ช่วยให้เก็บหนี้ได้มากขึ้น

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องของผลประกอบการ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 4,239 ล้านบาท +12%YoY ราคาหุ้นลดลง 20%YTD ซื้อขายที่ระดับ P/E 12x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 16x และ ยังมี upside แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) AAV (Bloomberg Consensus 3.58 บาท) มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้า 20-23% ขณะที่อัตราขนส่งผู้โดยสาร 20-21 ล้านคน มองแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง อานิสงส์ช่วง ไฮซีซัน ท่องเที่ยวคึกคัก เปิดเส้นทางใหม่ พร้อมรับเครื่องบินเสริมทัพพร้อมให้บริการ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TMAN (Bloomberg Consensus 26.05 บาท) ตอกย้ำเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของประเทศไทย ประกาศมุ่งสร้างโมเมนตัมเติบโตแข็งแกร่ง ไตรมาส 4 มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตในอัตราที่สูงกว่ามูลค่าตลาด รวมการจำหน่ายยาในประเทศไทยที่ขยายตัว 6-7% ต่อปี โชว์ผลงานไตรมาส 3/2567 รายได้รวม 535.80 ล้านบาท เติบโต 14.10% มีกำไรสุทธิ 104.20 ล้านบาท เติบโต 15.8% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TSE (Bloomberg Consensus - บาท) ลุ้นโครงการโรงไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 คาดชนะประมูลไม่น้อยกว่า 100-150 เมกะวัตต์ แย้มรุกทำ M&A-JV ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ-โซลาร์ฟาร์ม ส่วนแผน แตกไลน์ธุรกิจใหม่ Health Care ผ่านการเข้าถือหุ้น คลินิก IVF คาดปิดจ๊อบภายในไตรมาส 4/67 ด้านงบ 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPALI (Bloomberg Consensus 22.14 บาท) เผยผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2567 ชูสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โกยรายได้รวม 22,792 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 4,201 ล้านบาท เดินหน้าโค้งสุดท้ายลุยตลาดอสังหาแนวราบ-คอนโดมิเนียม เต็มกำลัง เปิดเพิ่มอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่า 13,730 ล้านบาท ชูโปรดักต์ใหม่ในทุกทำเลทุกเซ็กเมนต์ (ที่มา ทันหุ้น)