วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดราว 9 จุด จากนักลงทุนคลายความกังวลสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ก่อนที่ช่วงบ่ายดัชนีจะอ่อนตัวลง จากแรงขายกดดัน ในหุ้นกลุ่มพลังงาน และอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ความกังวลสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนออกไปก่อน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,443.31 จุด -2.99 จุด -0.21% มูลค่าการซื้อขาย 50,418.01 ลบ. Program Trading -2,356.20 ลบ. ต่างชาติ -2,056.33 ลบ. TFEX -6,952 สัญญา ตราสารหนี้ -1,462.07 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 440.06 จุด หรือ + 0.99% เนื่องจาก ตลาดขานรับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อ สก็อตต์ เบสเซนต์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐฯ
+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2%

ปัจจัยลบ  

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 3.23% ปิดที่ 68.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานข่าวว่า อิสราเอลและกลุ่ม ฮิซบอลเลาะห์ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง
- โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง ในเอเชียจะใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เมื่อพิจารณาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และความเสี่ยงที่เกิดจากมาตรการภาษีการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางในเอเชีย หากพบว่าสหรัฐฯ ทำการติดตั้งขีปนาวุธในภูมิภาคดังกล่าวเช่นกัน
- สายงานสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ในปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล เผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจัยสำคัญคือปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของจีดีพี
- ส.อ.ท.ได้ปรับตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ลดลง 200,000 คัน จาก 1,700,000 คัน เป็น 1,500,000 คัน ซึ่งเป็นเป้าหมายต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับนักลงทุนยังจับตาตัวเลขส่งออกของไทยในวันนี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,435-1,450 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA

• รัฐเตรียมแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัย : CPALL CPAXT BJC TNP

หุ้นรายงานพิเศษ

STECON ("ซื้อเก็งกำไร" Bloomberg Consensus 10.40)
"4Q67 ยังถูกกดดันจากงานซ่อมแซมบึงหนองบอนแต่ปี 68 สดใส"

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

•ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโตอย่างน้อย 5% สู่ 3.15 หมื่นลบ. และมุ่งเน้นขยายธุรกิจใหม่ 1) Data Center 2 แห่ง 2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำดิบให้แก่นิคมอุตสาหกรรม และ 3) ธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อหนุนให้อัตราการทำกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น อีกทั้ง เป็นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้บริษัทในอนาคต และคาดว่าปี 68 จะมีงานประมูลทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง 3 สาย รถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง มอเตอร์เวย์ 2 สาย ทางด่วน Double Deck และการขยายสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิและเชียงใหม่ มูลค่ารวม 4.9 แสนลบ.

ความเสี่ยง 1) ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ก่อสร้างโครงการ CFP ของ TOP มูลค่า 800 ลบ. ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเก็บเงินจากผู้ว่าจ้างได้ทำให้ยังไม่มีการตั้งสำรอง ในปัจจุบัน 2) โครงการซ่อมแซมอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอนคาดมีค่าใช้จ่าย ในการซ่อมแซมใน 4Q67 และปี 68 ราว 70 ลบ. และ 200 ลบ. ตามลำดับ ทั้งนี้ รวมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโครงการฯ ปี 66-68 ราว 700 ลบ. ซึ่งมีการบันทึก เป็นค่าใช้จ่ายไปแล้วและอยู่ระหว่างการเคลมประกันคาดได้รับคืนเกือบทั้งจำนวน

 

ความเห็น เราคาดว่ารายได้ 4Q67 จะเพิ่มขึ้น 9%QoQ สู่ 8 พันลบ. แต่ GPM ยังถูกกดดันจากงานซ่อมแซมอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน และส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองที่ยังกดดันผลประกอบการ แต่ปี 68 จะกลับมาเติบโตและอาจมีการกลับค่าซ่อมแซมอุโมงค์ระบายน้ำฯ เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมอีกทั้งมีงานประมูลใหม่ราว 4.9 แสนลบ.เป็น Catalyst เราจึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) GPSC (Bloomberg Consensus 52.00 บาท) มุ่งสร้างนิวเอสเคิร์ฟ ศึกษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก พร้อมลุยไดเร็กต์พีพีเอ หากกฎหมายชัด-เผยอยู่ระหว่างเจรจาขายไฟฟ้าสีเขียวให้ ดาต้าเซ็นเตอร์ แจงอยู่ระหว่างศึกษาดีล M&A ในไทย-อินเดีย-ไต้หวัน เล็งขยายกำลังผลิตแบตเตอรีเฟส 2 ปีหน้า เผยสิ้นปีนี้ส่งมอบแบตเตอรีให้ลูกค้า 9 พันแพ็ก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DITTO (Bloomberg Consensus 23.00 บาท)เดินหน้าลุยออกโทเคนคาร์บอนเครดิตปีนี้ เร่งเตรียมเอกสารยื่น ก.ล.ต. ชี้จะนำเงินมาพัฒนาป่าต่อเนื่อง ชูอนาคตดิจิทัลทรานส์ฟอร์มครบวงจร เชื่อดาต้าพันธมิตรสร้างโต ล่าสุดออกแพลตฟอร์มสินเชื่ออู่ซ่อมรถยนต์ Garage Lending ครั้งแรก ตลาด 3 หมื่นล้าน ลุยโครงการใหญ่ สวนสัตว์แห่งใหม่-พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TRP (Bloomberg Consensus 11.40 บาท) พร้อมเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางใบหน้าครบวงจรในปีหน้า มีห้องผ่าตัด 12 ห้อง ชี้โอกาสโตต่อเนื่อง คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 1/2568 ฟากผู้บริหารปลื้มผลงานไตรมาส 3/2567 กลับมาฟื้นตัว เดินหน้าขยายตลาดอัพฐานลูกค้า พร้อมเปิดรับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MAGURO (Bloomberg Consensus 22.25 บาท) ยิ้มรับผลงานไตรมาส 3/2567 ดีเกินคาด หลังต้นทุนปลาแซลมอนลดลง พร้อมรับทรัพย์สาขาใหม่ยอดขายเกินเป้า หนุนกำไรพุ่งขึ้น 54% แตะ 29.3 ล้านบาท เล็งเปิดเพิ่ม 2 สาขา และ 2 แบรนด์ใหม่ ล่าสุดเปิดตัวแบรนด์ "CouCou" ทิ้งท้ายปี(ที่มา ทันหุ้น)