วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ฝั่งเอเชียระยะสั้นยังได้รับแรงกดดันจากแผนการขึ้นภาษี

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ฝั่งเอเชียระยะสั้นยังได้รับแรงกดดันจากแผนการขึ้นภาษี

ตลาดยังอยู่ระหว่างประเมินความเข้มข้นของการปรับขึ้นภาษี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับขึ้นเล็กน้อย โดยนักลงทุนบางส่วนมองตัวเลขการขึ้นภาษีจีนที่ 10% ที่ทรัมป์โพสต์ในแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย Truth social เป็นตัวเลขที่ดีกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงดีกว่าข้อมูลในช่วงหาเสียง

อย่างไรก็ตาม เรามองนักลงทุนอยู่ระหว่างประเมินความเข้มข้นของการเก็บภาษี โดยล่าสุด มีข่าวทรัมป์เตรียมแต่งตั้งผู้แทนการค้าสหรัฐฯ Jamieson Greer ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทในนโยบายการค้าในสมัยแรก และมีบทบาทในการกำหนดภาษีศุลกากรต่อจีน ทำให้เรามองประเด็นการเก็บภาษีศุลกากรและนโยบายการค้า จะยังสร้างแรงกดดันต่อภาพรวมการลงทุนเอเชียในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง 60 วันกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 60 วัน หลังจากการเจรจาที่สหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการลดความตึงเครียดในภูมิภาค ตลอดจนเปิดทางสำหรับข้อตกลงหยุดยิงที่ยั่งยืน แม้ความสงบในตะวันออกกลางจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก แต่ในระยะสั้นข้อตกลงหยุดยิงจะเป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ  

ตัวเลขส่งออก ต.ค. +14.6% นำเข้า +15.9% ดีกว่าคาดมาก กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลข ส่งออก ต.ค. +14.6% นำเข้า +15.9% สูงสุดรอบ 19 เดือน และสูงกว่าตลาดคาดที่ +5.1% และ +6.4% มาก สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรโตดี (โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารทะเลแปรรูป) แต่ที่ทำให้ตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยหลักมาจากการเติบโตสินค้าอุตสาหกรรม (คิดเป็น 83% ของส่งออก) โดยเฉพาะส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ (โดยเฉพาะ HDD), เครื่องปรับอากาศ, เครื่องจักรกล, ผลิตภัณฑ์ยาง / สำหรับสินค้าเกษตร โมเมนตัมดังกล่าวบอกต่อหุ้น ได้แก่ AAI, ITC, TU และ MALEE, SUN, NER เป็นต้น / สำหรับแนวโน้มสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ จะบวกต่อ CCET, HANA, เป็นหลัก

 

ภาพรวมกลยุทธ์ “มีโอกาสซึมลงจากข่าวหยุดยิงในตะวันออกกลางกดดันน้ำมันดิบและกลุ่มพลังงาน เลือกเก็งกำไรรายตัว ให้น้ำหนักกับหุ้นที่โมเมนตัมผลประกอบการดีไปถึงไตรมาส 1/68 เราชอบกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก โดยคาดธนาคาร จะเป็นกลุ่มช่วยประคองบรรยากาศรวม // อาจเลือกหุ้นที่ได้แรงหนุนจากรายจ่ายภาครัฐ ได้แก่ SYNEX, SIS, SAMART, CSS, CK, STECON

แนวรับ: 1,405-1,423  แนวต้าน : 1,455 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60% 

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    CPN* (66) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และได้แรงหนุนจากมาตรการเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐในช่วงปลายปี-ต้นปี ตัดขาดทุน 60.75 บาท  
•    STECON* (9) : งานในมือกว่า 1 แสนล้านบาท ได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายภาครัฐ  และต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับลง  7.70 บาท 
•    ERW* (4.60) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตัดขาดทุน 4.02 บาท
•    TMAN* (18) : ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ราคาเหมาะสมเฉลี่ย IAA Consensus อยู่ที่ 25.13 บาท ตัดขาดทุน 16 บาท 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    "เนทันยาฮู" ประกาศอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์แล้ว
-    ยูเครนเรียกร้อง UNSC จัดประชุมพิจารณารัสเซีย-เกาหลีเหนือจับมือทางการทหาร
-    ทรัมป์ลั่นสั่งเก็บภาษีสินค้าเม็กซิโก-แคนาดา 25% จีน 10% ในวันแรกที่รับตำแหน่ง
-    ศาลยกฟ้องทรัมป์ คดีล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 63 หลังอัยการขอถอนฟ้อง
-    ธปท. เผย ไตรมาส 3/67 สินเชื่อแบงก์พาณิชย์ทั้งระบบ ติดลบ 2% เป็นการติดลบในรอบ 14 ปี
-    ก.ล.ต.ส่ง DSI ฟัน "ตั้งคารวคุณ" - "ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" พร้อมพวกปั่นหุ้น DPAINT 
-    กลุ่ม Power คงน้ำหนัก OVERWEIGHT, Top Picks : GULF, RATCH

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

27 พ.ย. – FOMC Minutes
 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ฝั่งเอเชียระยะสั้นยังได้รับแรงกดดันจากแผนการขึ้นภาษี วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ฝั่งเอเชียระยะสั้นยังได้รับแรงกดดันจากแผนการขึ้นภาษี