วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี GUNKUL เริ่มมองหาโอกาสใหม่ในต่างประเทศ
เรามอง Neutral ต่อข้อมูลจาก Opportunity day โดย GUNKUL ยังคงเป้ารายได้ปี 24F ที่ 9,500 ลบ. เป็นปีที่โดดเด่นจากงาน EPC และ Trading ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปี 25F ราว 10,000 ลบ. และปี 26F จะมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 2,000 MW จากทั้งไทยและต่างประเทศ
โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาตลาดในประเทศ ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, และฟิลิปปินส์ รวมกันคาดจะเป็นส่วนเพิ่มจากกำลังการผลิตปัจจุบันราว 150 MW ด้าน Outlook การเติบโตระยะยาวหากมีการเลื่อน Renewable phase 2 จะเป็นการชะลอ Upside ชั่วคราวแต่ในระยะยาวยังคงมุมมองบวกจากแผน PDP ฉบับใหม่ซึ่งมุ่งเข้าสู่ Net zero คาดกำไรปกติ 4Q24F เติบโต y-y ลดลง q-q หลังปริมาณแรงลมลดลงตาม Seasonality คงคำแนะนำ Buy และราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 3.85 บาท อิง SOTP
ประเด็น
(i) บริษัทฯ คงเป้าปี 24F ที่ 9,500 ลบ. (vs. เราคาด 8,931 ลบ.) เป็นปีที่โดดเด่นจากงาน EPC และ Trading โดย 9M24 มีรายได้แล้ว 7,404 ลบ. และปัจจุบันมี Backlog ราว 4,000 ลบ. ส่วนระยะสั้น แนวโน้มแรงลมใน 4Q24F ซึ่งคาด flat y-y ใกล้เคียงปี 23, ลดลง q-q ตาม Seasonality
(ii) เป้ารายได้ปี 25F ไม่ต่ำกว่า 10,000 ลบ. (ใกล้เคียงเราคาดที่ 10,225 ลบ.) โดยมีเป้าหมายจำนวน MW จากโรงไฟฟ้ารวมที่ 2,000 MW ภายในปี 26F จากปัจจุบัน 1,464 Equity MW (รวมโรงไฟฟ้าที่ยังไม่ COD)
(iii) กรณีคุณพีระพันธุ์ยื่นจดหมายขอชะลอการรับซื้อ Renewable phase 2 อิงข้อมูลจากข่าวหุ้นกกพ. ยังคงตามแผนเดิม แต่หากมีการเลื่อนจริงจะมีผลแค่ชะลอ Upside จากโปรเจคใหม่ในระยะสั้น ซึ่งผลกระทบการเลื่อน บริษัทเผยอาจมีค่าใช้จ่ายแต่ไม่มีนัยสำคัญ ขณะที่ระยะยาวยังคงมุมมองบวกจากแผน PDP ฉบับใหม่ซึ่งมุ่งเข้าสู่ Net zero
(iv) ปัจจุบัน GUNKUL กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างประเทศและคาดภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสัดส่วน Overseas PPA โดยมีโฟกัสไปที่ 3 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, และฟิลิปปินส์รวม 150 MW (ยังไม่รวมในประมาณการ) โดยปัจจุบัน บริษัทมีโรงไฟฟ้าอยู่แล้วทั้งในญี่ปุ่นจำนวน 65.3 MW และเวียดนาม 160 MW
(v) งบลงทุนปี 26F-30F รวม 38,000 ลบ. จะมี Source of fund อยู่ 2 ส่วน i) ภายใต้ IBD/E covenant ratio ของ GUNKUL อยู่ที่ระดับ 2.5 เท่า ยังมี Debt headroom สำหรับ Project finance เมื่อเทียบกับ IBD/E ปัจจุบัน ที่ราว 1.4 เท่า และใน 2Q25F บริษัทฯ จะมีหุ้นกู้ครบกำหนด 1 ชุดซึ่งอาจเป็นได้ทั้งรูปแบบ roll-over หุ้นกู้และเงินกู้จากสถาบันการเงิน ii) บริษัทมี Internal cashflow ราว 1,600+ ลบ. ต่อปี และจากทั้ง 2 ส่วนจึงมองเพียงต่อการลงทุน
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง Neutral ต่อข้อมูลจาก Opportunity day เราคาดกำไรปกติ 4Q24F เติบโต y-y จากงาน EPC และ Trading ที่เป็นตัวหนุนตลอดปี 24F ซึ่งมีโอกาสได้รับงานเพิ่มเนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่ได้รับคัดเลือกจาก PPA พลังงานหมุนเวียนรอบ 5,203 MW ซึ่งเตรียม COD ในปี 25-26F เริ่มก่อสร้าง ส่วนกำไรลดลง q-q หลังปริมาณแรงลมลดลงตาม Seasonality
- ด้าน Outlook ในระยะกลาง-ยาวมีโรงไฟฟ้าใหม่ทยอย COD ตั้งแต่ปี 2026F (โซล่าร์ 652 MW, ลม 180 MW) ซึ่งสามารถชดเชย Adder โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 30 MW (ถือเป็น JV ร่วมกับ GULF) ที่จะหมดในปี 2026F ได้
- คงคำแนะนำ Buy และราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 3.85 บาท อิง SOTP โดยแบ่งเป็น 1) ธุรกิจปัจจุบัน (โรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว มูลค่า 1.95 บาท 2) EPC & Trading มูลค่า 1.00 บาท 3) โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ มูลค่า 0.90 บาท ปัจจุบันยังซื้อขายถูกบน PER25F 12 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -0.5SD