วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นยืน 1420

นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อมากในหุ้น ADVANC และ DELTA เป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,428.01 จุด -2.39 จุด -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 35,571.54 ลบ. Program Trading -2,361.13 ลบ. ต่างชาติ -864.34 ลบ. TFEX +665 สัญญา ตราสารหนี้ +1,961.05 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+/- ตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
+ ผู้จัดการตลท.ย้ำความเชื่อมั่นตลาดทุนประสานทุกหน่วยงานเร่งดำเนินคดีรวดเร็ว พร้อมชูแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีตลาดทุนไทย เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดเม็ดเงิน ผุดโปรเจกต์ "Jump+" เพิ่มมูลค่าบจ.เดิม ผลักดันไทยเป็น Listing Hub
+ กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเสนอที่ประชุมครม. 5 โครงการคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากครม.ภายในเดือนธ.ค. 67 ได้แก่ มอเตอร์เวย์ M9, M5, สีแดงช่วงรังสิต-มธ

ปัจจัยลบ 

- คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ (FTC) เปิดฉากสอบสวนกรณีการต่อต้านการผูกขาดตลาดของบริษัทไมโครซอฟท์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจประมวลผลคลาวด์, การออกใบอนุญาตซอฟต์แวร์, บริการด้าน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- ดัชนี CPI พื้นฐานในกรุงโตเกียว ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวสูงขึ้น 2.2%YoY ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 2.1%YoY และสูงกว่าตัวเลข 1.8%YoY ในเดือนต.ค.
- สหประชาชาติ (UN) แถลงการณ์ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2 ล้านคนในฉนวนกาซากำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร

- นายอู๋ เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนเรียกร้องให้สหรัฐถอนระบบขีปนาวุธไทฟอน (Typhon) ออกจากฟิลิปปินส์โดยทันที
- ส.อ.ท.กล่าวว่า สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ถือว่า ตกต่ำสุดในรอบ 15 ปี โดยปรับลดเป้าการผลิตมาแล้ว 2 ครั้งๆ ละ 2 แสนคัน จากเป้าเมื่อต้นปี 1.9 ล้านคัน ลงมาเหลือ 1.7 ล้านคันเมื่อช่วงกลางปี และล่าสุดเหลืออยู่ที่ 1.5 ล้านคัน ส่วนแนวโน้มในปี 68 ยังมองว่ายังซบเซาต่อเนื่อง หากไม่มีมาตรการกระตุ้นศรษฐกิจจากภาครัฐ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดประเทศ โดยมีแรงกดดันจากกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,420-1,440 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HAN

• รัฐเตรียมแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัย : CPALL CPAXT BJC TNP
• สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่เติบโตดี : STA NER TFG MALEE ITC AAI

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SNPS <SET / PERSON>
ราคา IPO 4.20 บาท คิดเป็น Trailing PE ที่ 31.38x
ราคาเหมาะสม 6.00 บาท ส่วน Consensus  5.60-6.60 บาท 
 

•SNPS ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน (สัดส่วน 30%) รวมทั้งรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ ความงามภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Design Manufacturer) (สัดส่วน 65%) และผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ (Original Brand Manufacturer) (สัดส่วน 5%)

•ช่วงปี 64-66 มีรายได้ 706 ลบ. 489 ลบ. และ 354 ลบ. ตามลำดับ หดตัวเฉลี่ย CAGR 29% ต่อปี และมีกำไร 170 ลบ. 72 ลบ. และ 37 ลบ. ตามลำดับ หดตัวเฉลี่ย CAGR 53% ต่อปี โดยหลักมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้สินค้ากลุ่มสารสกัดและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมียอดขายลดลง อาทิ ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ และ ATK รวมทั้งปี 65-66 มีการขาย ATK ในราคาต่ำกว่าทุน อย่างไรก็ตาม 9M67 มีรายได้และกำไรปรับดีขึ้นสู่ 337 ลบ. +22%YoY และ 56 ลบ. +82%YoY จากคำสั่งซื้อที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ ขณะที่แนวโน้มกำไรปี 67-69 เราคาดราว 77-131 ลบ. เติบโตเฉลี่ย CAGR 53% ต่อปี จากทั้ง 3 ธุรกิจข้างต้น ซึ่งโดยหลักกว่า 80% มาจากคำสั่งซื้อเพื่อผลิตสินค้าต่อเนื่องจากเดิมที่มีอยู่แล้ว (Existing Products) และอีกราว 20% เพื่อสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Products)

•ราคา IPO หุ้นละ 4.20 บาท คิดเป็น Trailing PE ที่ 31.38x จำนวน IPO 105 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุนราว 441 ลบ. มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพิ่มเทคโนโลยีในการสกัด 2) วิจัย พัฒนา และผลิตวัตถุดิบสมุนไพร ยาพัฒนาจากสมุนไพรและอาหาร ทางการแพทย์ 3) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากกสถาบันการเงิน และ 4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยเราประเมินราคาเหมาะสม SNPS ปี 68 ราว 6.00 บาทต่อหุ้น บน Forward PE ที่ 22.4x เท่ากับค่าเฉลี่ยกลุ่ม (MEGA, TMAN, IP, BLC, JSP, APCO) ส่วนราคาเหมาะสม Consensus อยู่ที่ 5.60-6.60 บาท

** Globlex Securities เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่าย **

หุ้นมีข่าว

(+) WPH (Bloomberg Consensus - บาท) ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2567 โตกระฉูด หลังยกระดับการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง รวมทั้งเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของต่างชาติ หนุนยอดตรวจรักษาพุ่ง ฟากผู้บริหารมั่นใจรายปี 2567 เติบโตเกิน 30% แตะ All Time High พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุน โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ภูเก็ต คาดเปิดให้บริการไตรมาส 4/2569 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CH (Bloomberg Consensus - บาท) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ Bangkok Tasty by Chin Huay ชูเอกลักษณ์สตรีทฟู้ดของไทย ปรับสู่รูปแบบผลไม้อบกรอบ ได้แก่ มะม่วงอบกรอบคลุกน้ำปลาหวาน มะม่วงอบกรอบคลุกพริกเกลือ ฝรั่งอบกรอบคลุกน้ำปลาหวาน และฝรั่งอบกรอบคลุกพริกเกลือ ชิงพื้นที่ตลาดขนมเพื่อสุขภาพ เจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยว-ชาวไทย กางแผนเตรียมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้โต 50% ในปี 2568 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BLC (Bloomberg Consensus - บาท) เก็งไตรมาส 4/2567 ผลงานนิวไฮ รับอานิสงส์งบภาครัฐหนุน-ดีมานด์ผลิตภัณฑ์ยาโตต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำปี 2569 รายได้แตะ 2 พันล้านบาท พอร์ตลูกค้าเพิ่มขึ้น โปรดักต์ใหม่ดัน ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ "BKD VIVA" สยายปีกช่องทางออนไลน์ อัพฐานโกยเงินเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FM (Bloomberg Consensus 6.40 บาท) แย้มแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2567 เติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกยอดขายเพิ่มในธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก และธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ มั่นใจรายได้ปี 2567 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)