วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BCH ปี 24F จะมี downside จากการบันทึก RW>2
มีมุมมองลบเล็กน้อยต่อข้อมูลจากการประชุมกับ BCH เนื่องจาก 1) ระยะสั้นยังมี 2 ปัจจัยลบจากบันทึกค่ารักษาประกันสังคม RW>2 ต่ำกว่า 12,000 บาท/RW และการตั้งสำรองหนี้รายได้ COVID ค้างรับบางส่วน
2) แนวโน้ม 4Q24F อาจเป็นไตรมาสต่ำสุดของปี เบื้องต้นประเมินด้วยสมมติฐานบันทึกค่ารักษาประกันสังคม RW>2 งวด 2H24F อัตรา 7,200 บาท จะทำให้มี downside ต่อกำไรสุทธิปี 24F ราว -13% นอกจากนี้เรามีมุมมองระมัดระวังต่อการกลับมาให้บริการกลุ่มรัฐสวัสดิการคูเวต จึงมองจังหวะลงทุน BCH ควรเป็นช่วงต้นปี 25F หลัง Preview 4Q24F และเริ่มเห็นการกลับมาให้บริการลูกค้าคูเวต แนะนำ Neutral สำหรับ BCH
ประเด็นสำคัญ
- ใน 3Q24 BCH มีรายได้รักษาพยาบาลที่ไม่รวมรายได้ภาระเสี่ยงเพิ่มเติม 3,184 ลบ. (+0.3%y-y +11%q-q) ทรงตัว y-y เนื่องจากรายได้กลุ่มต่างชาติ (-28%y-y +2%q-q) ลดลงแรงจากคูเวต (-93%y-y), กาต้า (-41%y-y) และกลุ่ม CLMV (+1%y-y) ทรงตัว ส่วนรายได้กลุ่มชาวไทย (+7%y-y +13%q-q) เติบโตจากเงินสด OPD และประกันสังคม
- BCH ได้รับเงินค่ารักษาประกันสังคมสำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ถึงเดือน มิ.ย.24 ผู้บริหารระบุ ขอดูอัตราจ่ายงวดเดือน ก.ค.24 ก่อน ทั้งนี้ BCH มีโอกาสจะบันทึกค่ารักษา RW>2 ในงวด 2H24F ต่ำกว่า 12,000 บาท/RW
- คณะกรรมการบอร์ดแพทย์ประกันสังคมเห็นชอบให้ค้ำประกันอัตราจ่ายค่ารักษา RW>2 ที่ 12,000 บาท/RW สำหรับงบประมาณปี 2025 ซึ่งในเดือน ธ.ค.24 BCH จะเซ็นสัญญาเป็นคู่สัญญาประกันสังคมเพื่อให้บริการในปี 2025
- ผู้บริหารระบุ ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา BCH มีการส่งตารางค่าบริการทางการแพทย์ให้กับสถานฑูตคูเวต และมองว่าน่าจะกลับมาเริ่มให้บริการกลุ่มคูเวตได้ในต้นปี 2025 โดยจะเป็นการรักษาเฉพาะโรคกลุ่มแผลเบาหวานและกลุ่มโรคไต
- เป้าหมายปี 24F รายได้เติบโต 5-7% อยู่บนสมมติฐานบันทึกรายได้ RW>2 ที่ 12,000 บาท โดยเดือน ต.ค.-พ.ย.24 กลุ่มลูกค้าเงินสด OPD ยังมีรายได้เติบโต y-y (3Q24 รายได้เงินสด OPD +11%y-y) ขณะที่กลุ่ม IPD ยังมีผลกระทบจากรายได้ต่างชาติ โดยเฉพาะคูเวต และกลุ่มประกันสังคมยังมีความไม่แน่นอนจากบันทึกค่ารักษา RW>2
- ปัจจุบัน BCH มีรายได้ COVID ค้างรับจำนวน 176 ลบ. ผู้บริหารระบุ อยู่ระหว่างหารือกับผู้สอบบัญชีเพื่อตั้งสำรองหนี้บางส่วน เนื่องจาก สปสช.มีแนวโน้มจ่ายเงินล่าช้า
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมองลบเล็กน้อยต่อข้อมูลจากการประชุมกับ BCH เนื่องจากระยะสั้น 4Q24F ยังมี 2 ปัจจัยลบ 1) บันทึกค่ารักษาประกันสังคม RW>2 ต่ำกว่า 12,000 บาท/RW และ 2) การตั้งสำรองหนี้รายได้ COVID ค้างรับบางส่วน ทำให้เป็น downside ต่อกำไรสุทธิปี 24F ของเราคาด 1,430 ลบ. (สมมติฐานของเราบันทึกอัตรา 12,000 บาท และไม่รวมการตั้งสำรองหนี้รายได้ COVID ค้างรับ)
- เบื้องต้นเราลองประเมินด้วยสมมติฐานบันทึกค่ารักษาประกันสังคม RW>2 งวด 2H24F ในอัตรา 7,200 บาท จะทำให้มี downside ต่อกำไรสุทธิปี 24F ราว -13% จาก 1,430 ลบ.
- กรณีความเสี่ยงรายได้ค้าง COVID ค้างรับจำนวน 176 ลบ. เราลองประเมินความเสี่ยงจากการตั้งสำรองหนี้ทุก 10% ของยอดค้างรับดังกล่าว จะกระทบต่อกำไรสุทธิปี 24F ราว -1% จาก 1,430 ลบ.
- การการันตีจ่ายค่ารักษาประกันสังคม RW>2 สำหรับงบประมาณปี 25F ในอัตรา 12,000 บาท/RW จะจำกัดความเสี่ยงต่อกำไรสุทธิปี 25F ของเราที่ใช้สมมติฐานอัตรา 12,000 บาท/RW
- เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อการกลับมาให้บริการกลุ่มรัฐสวัสดิการคูเวต ซึ่งต้องรอดูการส่งผู้ป่วยในต้นปี 2025 อีกครั้ง ประกอบกับการที่ BCH จะรักษาเฉพาะกลุ่มโรคแผลเบาหวานและโรคไต รวมทั้งอาจมีบาง รพ.ที่มีศักยภาพรักษาในกลุ่มโรคดังกล่าวดึงลูกค้าบางส่วน ทำให้คาดว่าสัดส่วนรายได้กลุ่มคูเวตอาจไม่กลับไปเท่ากับปี 2023 ที่ราว 6% ของรายได้รักษาพยาบาล (vs 3Q24 สัดส่วนรายได้คูเวต 0.4%)
- แนะนำ Neutral สำหรับ BCH (TP25F 20.00 บาท) วิธี DCF WACC 7.2% L-T growth 3% เนื่องจาก 1) แนวโน้ม 4Q24F อาจเป็นไตรมาสต่ำสุดของปี และ 2) กำไรสุทธิปี 24F ยังมีความเสี่ยง Downside จาก 2 ปัจจัยลบข้างต้น เรามองจังหวะลงทุน BCH เป็นช่วงต้นปี 25F หลังจาก Preview งบฯ 4Q24F และเริ่มเห็นการกลับมาให้บริการลูกค้าคูเวต