วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีและแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย

พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ต.ค. เพิ่มขึ้น 372,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.744 ล้านตำแหน่ง ส่วนตัวเลขปลดออกจากงานลดลง 169,000 ตำแหน่ง แม้ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 แต่โดยรวมถือว่าตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่ง แม้มีตัวเลขเศรษฐกิจอีกหลายรายการในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตร พ.ย. ที่จะประกาศในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง (ดีขึ้นมากจาก ต.ค. ที่เพิ่มเพียง 12,000 ตำแหน่ง) แต่โดยรวมไม่มีผลต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุด FedWatchTool ประเมินความน่าจะเป็นในการปรับลดดอกเบี้ย 18 ธ.ค. นี้สูงถึง 72.9% (เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ 50-60%) คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด

สถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส คาดหนุนการปรับลดดอกเบี้ยของ ECB: สถานการณ์ยากลำบากของรัฐบาลเสียงข้างน้อยฝรั่งเศสในการผ่านร่างงบประมาณ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอในหลายประเทศ คาดเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะประชุมในวันที่ 12 ธ.ค.นี้   

ทยอยสะสมหุ้นที่โมเมนตัมผลประกอบการในช่วง 4Q67-1Q68 แข็งแกร่ง: เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนหุ้นไทยช่วงปลายปี ที่มีแรงส่งทั้งจากนโยบายรัฐ, เม็ดเงินจากการลงทุนลดหย่อนภาษี รวมถึงจากผลประกอบการเอง เรามองเห็นหลายอุตสาหกรรมที่มีโมเมนตัมกำไรแข็งแกร่ง และมีปัจจัยหนุนด้านฤดูกาล ได้แก่ 1) ท่องเที่ยว ปีหน้ามีแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 เป้าหมายนักท่องเที่ยว 38-39 ล้านคน 2) ค้าปลีก แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและเพิ่มกำลังซื้อ 3) การเงินและธนาคาร ผลการตั้งสำรองหนักมาตลอดปี ทำให้มีโอกาสที่กำไรไตรมาสนี้จะดีกว่าตลาดคาดจากการตั้งสำรองที่ลดลง 4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายภาครัฐ โดยหุ้นที่เราชอบได้แก่ AOT, ERW, SPA,

 

 

 

DUSIT, CPALL, CPAXT, TNP, MTC, TIDLOR, KBANK, SAMART, SAMTEL, SYNEX, SIS    

ภาพรวมกลยุทธ์ “อาจแกว่งแถว 1,456 จุด ก่อนผ่านได้ในที่สุด ยังยืนยันต้นธ.ค.เป็นโอกาสทยอยซื้อ ให้น้ำหนักกับหุ้นที่โมเมนตัมผลประกอบการดีไปถึงไตรมาส 1/68 เราชอบกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก โดยคาดธนาคาร และการเงิน จะเป็นกลุ่มช่วยประคองบรรยากาศรวม // หุ้นที่ได้แรงหนุนจากรายจ่ายภาครัฐ ได้แก่ SYNEX, SIS, SAMART, CSS, CK, STECON // ผู้ต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีควรทยอยซื้อ RMF, SSF, Thai ESG

แนวรับ: 1,430  แนวต้าน : 1,438-1,450 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    BBL* (154) : โมเมนตัมการปรับประมาณการกำไรขึ้นยังคงเป็นบวก ขณะที่มีโอกาสรายงานกำไรไตรมาส 4 ดีกว่าคาดจากการตั้งสำรองไปมากแล้ว ตัดขาดทุน 148.50 บาท 
•    ERW* (4.80) : เก็งกำไรผลประกอบการเข้า high season และนักท่องเที่ยวช่วง พ.ย.-ธ.ค. เร่งตัวจากจุดต่ำสุด ต.ค. ตัดขาดทุน 3.96 บาท
•    CPAXT* (37) : ผลการดำเนินงานอยู่ในโมเมนตัมของการปรับประมาณการกำไรขึ้น การปรับ LPF เป็น AXTRART ทำให้มีเงินในการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ช่วยปรับสถานะทางการเงินของ CPAXT  ตัดขาดทุน 33.25 บาท  
•    KTC* (52) : การตั้งสำรองที่เยอะในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดการตั้งสำรองในไตรมาส 4 จะไม่เยอะมาก และมีโอกาสรายงานกำไรดีกว่าคาด ตัดขาดทุน 46.50 บาท 
 

 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก ก่อนต้องยกเลิกหลังรัฐสภาฯ ลงมติให้เป็นโมฆะ
-    วันนี้ นายกฯ ถก ซีอีโอ NVIDIA ดันไทยสู่ผู้นำเอไอระดับภูมิภาค
-    โอเปคพลัสจ่อขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นไตรมาส 1/68 บวกต่อราคา
-    ครม.ไฟเขียว "หวยเกษียณ" ส่งร่างแก้ไข กม.กอช. เข้าสภาฯ เปิดให้คนอายุเกิน 60 ปีซื้อได้
-    ครม.เคาะจ่ายไร่ละพันบาทไม่เกิน 10 ไร่ ยันเงินถึงมือไม่เกิน 10 วันทำการ
-    สรท. คาดส่งออกปี 68 โต 1-3% ส่วนปีนี้ลุ้นโต 3.5-4% ทะลุเป้า
-    SAMTEL ส่ง บ.ย่อยผนึกคู่ค้าคว้างานไอทีของ กฟภ.มูลค่า 1,504.42 ลบ.
-    ELECTRONICS ปรับลดน้ำหนักเป็น MARKETWEIGHT

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

6 ธ.ค. – US Non Farm Payrolls (Nov)