Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว พรุ่งนี้รอติดตามผลประชุม กนง.และเฟด
กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน - กลยุทธ์ระยะสั้น Open Long 918, Take Profit 923/928, Stop Loss 913
แนวโน้มระยะกลาง
ระยะกลางคาด S50Z24 แกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นลบมากขึ้นหลังจากหลุดต่ำกว่า 930 ประเมินแนวรับ 913*/905/895 และแนวต้าน 922/930/938/945 หากยืนได้เหนือ 913 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้านที่ 922/930 หากยืนไม่ได้เหนือ 913 อาจแกว่งตัวลงไปแนวรับ 905/895
กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)
แนะนำเปิด Long สัญญา S50Z24 ที่ 913 และปิดสถานะที่แนวต้าน 922/930 โดยให้จุด Stop loss ที่ 908
สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50Z24 ที่ 922 เมื่อวานนี้ แนะนำปิดสถานะที่ 933/938 โดยให้จุด Stop loss ที่ 917
แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)
วานนี้ S50Z24 เคลื่อนไหวแกว่งตัวลง โดยชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 917.1 สลับเด้งฟื้นขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ 923.4 และมาปิดที่ 921.4 โดย Futures ลบน้อยกว่าดัชนีส่งผลให้ Basis ระหว่าง S50Z24 และ SET50 สู่ +1.19จุด
ประเมินสัญญา S50Z24 อาจแกว่งตัว หากยืนได้เหนือ 918 อาจสลับเด้งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 923/928
กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**
แนะนำเปิด Long สัญญา S50Z24 ที่แนวรับ 918 แนะนำปิดสถานะที่แนวต้าน 923/928 โดยให้จุด Stop loss ที่ 913
สำหรับคนที่ได้เปิด Long ที่ 926 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา อาจจะได้ปิดสถานะที่ 922 และสำหรับคนที่ได้เปิด Long ที่ 920 เมื่อวานนี้ แนะนำปิดสถานะที่ 923/928 โดยให้จุด Stop loss ที่ 915
ปัจจัยสำคัญ
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50
วานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 110 จุด หรือ (-0.25%) มาปิดที่ 43,717 จุด แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดบวกจากแรงซื้อด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้นักลงทุนรอติดตามปัจจัยสำคัญคือผลการประชุมเฟดในคืนวันพุธ เพื่อรอติดตามสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายผ่าน Dot plots และสุนทรพจน์ของประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวล ทั้งนี้ Fed Watch Tool ชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักกว่า 95.4% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ และให้น้ำหนักราว 32.7=3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.0% ภายในสิ้นปีหน้า
ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดลบ 0.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล0 (-0.81%) ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกจีนเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3%ลดลงจากเดือนก่อนที่ 4.8% และต่ำกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6% สะท้อนว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจีนอ่อนแอ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจีนจะชะลอลง ทั้งนี้จีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากสุดในโลก
ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น
ปัจจัยสำคัญที่ให้รอติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ผลการประชุมเฟดในคืนวันพุธ (ทราบผลเช้าวันพฤหัสบดี) ทั้งนี้ตลาดคาดลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และผลการประชุมคณะกรรมการกนง.ในบ่ายวันพุธ ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบบาย 0.25% นอกจากนี้ในคืนนี้ติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนพ.ย. ทั้งนี้ตลาดคาด 0.6%MoM