วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CENTEL ถูกกดดันจากกิจการในมัลดีฟส์และการปรับปรุงโรงแรมเพิ่มอีก
กำไรจะลดลงใน 4Q67 จากการเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์
ถึงแม้ว่า CENTEL จะคงเป้าหมายอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ปี 2567 เอาไว้เท่าเดิมที่ 70%-73%,
RevPar ที่ 4.0-4.3 พันบาท, same-store-sales growth (SSSG) ที่ 1%-3% และ total-system-sales growth (TSSG) ไว้ที่ 4%-6% แต่เราคิดว่าผลประกอบการ 4Q67 ของบริษัทจะออกมาไม่น่าตื่นเต้น ทั้งที่ตามปกติแล้ว 4Q จะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวของไทย, ญี่ปุ่น และดูไบแข็งแกร่งตามฤดูกาล แต่ CENTEL จะได้รับ
ผลกระทบจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก่อนเปิดดำเนินการ และผลขาดทุนจากโรงแรมใหม่สองแห่งในมัลดีฟส์
(Centara Mirage Lagoon Maldives และ Centara Grand Lagoon) ประมาณ 150-200 ล้านบาท หลังจากที่บันทึกค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการไว้เพียง 12 ล้านบาทใน 3Q67 ซึ่งหมายความว่าจะต้องบันทึกค่าใช้จ่าย
ส่วนนี้อีกประมาณ 138-188 ล้านบาทใน 4Q67F นอกจากนี้ บริษัทยังจะได้รับผลกระทบจากการปิดปรับปรุงบางส่วนของโรงแรม Centara Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya และ Centara Karon
Resort Phuket (คาดว่าจะเสร็จภายในปลาย 4Q67) ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่กดดันผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปี ส่วนธุรกิจอาหาร เราคาดว่าแนวโน้มแข็งแกร่งจากช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 4 จากแบรนด์อาหารหลักๆ ของบริษัท ทั้งนี้ แม้ว่าเราจะคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q67F จะออกมาสูงกว่า 420 ล้านบาท แต่กำไรจะยังคงลดลง YoY
คาดว่ากำไรในปี 2568 จะเพิ่มขึ้น YoY แม้จะยังมีการปรับปรุงโรงแรมเพิ่มเติม
ในปี 2568 เราคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของ CENTEL จะยังดีขึ้นอีก YoY ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและอาหาร เนื่องจาก i) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยน่าจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (KGI ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 ล้านคนในปี 2568F จาก 35 ล้านคนในปี 2567F) ii) RevPar เพิ่มขึ้นหลังจากที่ปรับปรุงโรงแรมเสร็จในปี 2567 iii) โรงแรมในมัลดีฟส์และญี่ปุ่นดีขึ้น iv) margin ของแบรนด์หลัก
(Shinkanzen, Auntie Anne’s, Salad Factory, Ootoya และ KFC) อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามการปรับปรุงโรงแรม Centara Krabi และ Centara Grand Hua Hin ในปี 2568 จะฉุดรั้งกำไรของบริษัทเพิ่มเติม
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F ลง 23.9% และปี 2568F ลง 28.9%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ลง 23.9% และ ปี 2568F ลง 28.9% เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการรายได้ลง 3.2% และปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมในปี 2567F และ ii) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมสำหรับปี 2568F ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของ CENTEL ในปี 2567F จะอยู่ที่ 1.47 พันล้านบาท (+17.7% YoY) และ ปี 2568F จะอยู่ที่ 1.63 พันล้านบาท (+11.0% YoY)
Valuation & Action
เราคิดว่า CENTEL จะน่าสนใจหลังจากผ่านช่วงของการปรับปรุงโรงแรมในปี 2568 ไปแล้ว ดังนั้น เราจึง
ยังคงคำแนะนำถือ CENTEL โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 39.00 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่
13.4x) ลดลงจากเดิมที่ใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 47.00 บาท
Risks
ความวุ่นวายทางการเมือง, เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง