วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,384.76 จุด +4.91 จุด +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 29,604.22 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -16.09 จุด -1.15%) Program Trading +522.11 ลบ. ต่างชาติ +478.78 ลบ. TFEX +27,971 สัญญา ตราสารหนี้ -6,118.21 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 339.86 จุด หรือ +0.80% ขณะที่นักลงทุนมีความหวังว่า ในปีใหม่นี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายนโยบายด้านกฎระเบียบมากขึ้น
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ +1.13% ปิดที่ 73.96 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงการที่จีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
+ สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนธ.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 48.4 จากระดับ 48.4 ในเดือนพ.ย.
+ รองเลขาธิการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่าจีนเตรียมระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษในปริมาณมหาศาลในปี 2568 เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคธุรกิจและการบริโภคสะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ก้าลังชะลอตัว

ปัจจัยลบ 

- คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณา ออกกฎหมายในการควบคุมหรือสั่งห้ามโดรนของจีนในสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติที่เกี่ยวกับจีน

- ชาวเกาหลีใต้นับหมื่นคนฝ่าหิมะที่ตกหนักในกรุงโซลออกมารวมตัวชุมนุมโดยมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้านการจับกุมประธานาธิบดียุน ซอกยอล ซึ่งถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งจากกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่าคาดสงครามการค้ารุนแรงครึ่งปีหลัง หากมีการใช้กำแพงภาษีนำเข้าตอบโต้กันในวงกว้าง โดยเริ่มจากภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์และจีนตอบโต้ในระดับเดียวกันระบบการผลิตห่วงโซ่อุปทานและระบบการค้าโลกจะแยกส่วนออกจากกันมากยิ่งขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนมีความหวังว่า ในปีใหม่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด มองกรอบดัชนี 1,380-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PRM "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 10.30 บาท มี Upside 18%)
"มุมมองเป็นกลางต่อ 4Q67 คาดโต YoY ทรงตัว QoQ แต่มองบวกต่อแนวโน้มปี 68

•งวด 3Q67 มีกำไร 450 ลบ. +37%YoY -30%QoQ โดยมีรายได้ 2,171 ลบ. +18%YoY -9%QoQ เติบโตดี YoY จากการทยอยขยายการลงทุนตั้งแต่ปลายปี 66 อาทิ เรือขนส่งน้ำมัน 2 ลำ และเรือสนับสนุนงานสำรวจ (Crew boat) 2 ลำ ประกอบเรือกักเก็บน้ำมัน (FSU) มี U.rate ปรับตัวดีขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการอ่อนตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่มีมรสุมทำให้มีการทยอยนำเรือเข้า อู่ซ่อมบำรุง โดยเฉพาะเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ 1 ลำ (Alframax) ที่ตั้งแต่ต้น 3Q67 มีการซ่อมใหญ่และปรับให้เป็นเรือกักเก็บน้ำมันเพื่อรอการขนถ่าย (FSO) ซึ่งคาดจะกลับมา เริ่มให้บริการตั้งแต่ 25 ธ.ค.67 ทั้งนี้ 9M67 มีกำไร 1,652 ลบ. +20%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการ 4Q67 คาดคงเติบโต YoY แต่ ทรงตัว QoQ เนื่องจากยังเข้าสู่ช่วงมรสุมจึงมีการปรับนำเรือที่จะเข้าอู่ในช่วงมี.ค.68 มาเป็นช่วง 4Q67 อย่างไรก็ตาม เรามองบวกต่อแนวโน้มปี 68 คาดจะเติบโตดีตั้งแต่ 1Q68 เป็นต้นไป จากเหตุผล 3 ข้อ คือ 1) รับรู้รายได้จากเรือ FSO เต็มปี (ปี 67 ไม่ได้รับรู้รายได้ 5 เดือน เนื่องจากหมดสัญญา) 2) เรือ FSU ลำใหม่ เริ่มให้บริการ ก.พ.68 และ 3) เริ่มให้บริการเรือ Crew Boat 4 ลำใหม่ตั้งแต่ปลาย ธ.ค.67- มี.ค.68 ให้กับกลุ่ม PTTEP และ Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67-68 ราว 2,146 ลบ. +1%YoY (9M67 คิดเป็น 76%) และ 2,426 ลบ. +13%YoY ตามลำดับ ส่วนราคาเหมาะสม 10.30 บาท มี Upside 18% แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg Consensus 65.00 บาท) เดินหน้าศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน-ต่างประเทศเพิ่มดันพอร์ตโต เตรียมงบลงทุนปี 2568 ราว 2-3 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้าที่มี PPA แล้ว 70% ที่เหลือลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์-คลาวด์ ปีนี้ จ่อ COD 1.47 พันเมกะวัตต์ ล่าสุด 1 มกราคม 2568 "หินกองหน่วยที่ 2" กำลังผลิต 770 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว ด้านโรงไฟฟ้าโซลาร์ COD แล้วสิ้นปี 2567 จำนวน 5 โครงการ กำลังผลิต 531.8 เมกะวัตต์ ลั่นเก็บภาษีนิติบุคคล ขั้นต่ำ 15% กระทบรายได้เพียง 0.5% - กำไรไม่เกิน 2% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SNPS (ราคาเหมาะสม 6.00 บาท) เปิดแผนปี 2568 รุกเปิดตัว 10 ผลิตภัณฑ์ใหม่ หนุนผลดำเนินงานเติบโต เดินหน้ารุกตั้งตัวแทนจำหน่ายลุยตลาดต่างประเทศ ดันสู่ผู้นำนวัตกรรมสารสกัดธรรมชาติ คาดรายได้ปีนี้โตต่อเนื่องจากปีก่อน เผยงบปี 2567 มีลุ้นโตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FM (Bloomberg Consensus 7.20 บาท) รับพี/อีเหลือ 7 เท่า เหตุนักลงทุนกังวลราคาไก่ในอุตสาหกรรมเกินไปทั้งๆ ที่ราคาไก่ปัจจุบันยังทรงตัวสูง ชี้หากราคาไก่ลงบริษัทกระทบน้อย มีจุดเด่นเกมรุกไก่แปรรูปมาร์จิ้นสูง ปักธงปีนี้ขาย 2.6 หมื่นตัน ลูกค้าเก่าเติบโต ขยายต่อลูกค้าใหม่ ลั่นผลงานเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม แย้มเจรจาหลายพาร์ตเนอร์รุกธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง แต่ต้องรอบคอบ ด้านกูรูมองราคาไก่จะสูงรับตรุษจีน (ที่มา ทันหุ้น

(+) SAV (Bloomberg Consensus 27.00 บาท) รับอานิสงส์ท่องเที่ยวเวียดนามบูม หนุนค่าฟีบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาพุ่งทะยาน พร้อมปักธงปี 2568 เติบโต 12% จากการเพิ่มเที่ยวบินและการฟื้นตัว แถมเปรยสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ "เตโช กัมพูชา" ขยายฐานธุรกิจอนาคตแกร่ง (ที่มา ข่าวหุ้น)