วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มต้นปีด้วยความผันผวน แต่ยังมองเห็นโอกาสในหุ้นรายกลุ่ม/รายตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มต้นปีด้วยความผันผวน แต่ยังมองเห็นโอกาสในหุ้นรายกลุ่ม/รายตัว

ตลาดหุ้นม.ค. อาจผันผวนจากประเด็นกังวลและติดตาม ต่อไปนี้ 1) Global Minimum Tax ซึ่งน่าจะกระทบ DELTA, TU, STA (effective tax rate ต่ำ 10%) และกระทบเล็กน้อยต่อ โรงไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์

2) กังวลแรงขาย LTF ซึ่งเรามองกระทบไม่มาก เพราะการถึงกำหนดขายตามปีปฏิทิน ไม่ทำให้เกิดการกระจุกของแรงขาย 3) ภาวการณ์คลังสหรัฐฯ (เพดานหนี้) 4) นโยบายการค้าและเศรษฐกิจของผู้นำใหม่สหรัฐฯ 

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ จะเป็นปัจจัยช่วยให้ SET เริ่มตั้งหลัก: ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/67-1/68 คาดออกมาแข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ SET Index เดินหน้าในทิศทางปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอิงเศรษฐกิจในประเทศ ที่ไม่เสี่ยงต่อนโยบายการค้า/เศรษฐกิจของทรัมป์ และมีแรงส่งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ได้แก่ ธนาคาร, การเงิน, ค้าปลีก, รับเหมา เป็นต้น 

•    กลุ่มธนาคาร - คาดรายงานกำไรไตรมาส 4/67 ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท -7% QoQ และ +20% YoY (การลดลง QoQ เป็นปัจัยฤดูกาล) ทั้งนี้เรายังให้น้ำหนักว่าผลประกอบการอาจดีกว่าคาด หลังตั้งสำรองหนักมาตลอดปี โดยธนาคารที่คาดรายงานกำไรเด่น YoY ได้แก่ KABNK, KTB และ TTB 

•    กลุ่มอาหาร - มีแนวโน้มปรับประมาณการที่น่าสนใจ กลุ่มอาหารโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มและกลุ่มผู้ผลิตเนื้อสัตว์ มีแนวโน้มของการปรับประมาณการกำไรขึ้นที่น่าสนใจ มาจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง บวกต่อ CBG, OSP, BTG, CPF, TFG โดยเรามอง CBG และ BTG มี earnings upgrade potential ในระดับ +20% และ +45% ตามลำดับ // ทั้งนี้ผลประกอบการกลุ่มอาหารไตรมาส 4 มีแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 3 ที่เป็น peak season และสูงเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2568 คาดจะ trigger การเกิด Earnings upgrade และ revised up TP ทำให้หุ้นมีโอกาสฟื้นรอบใหญ่ๆ   


 

ภาพรวมกลยุทธ์ ความผันผวนช่วงม.ค.เป็นโอกาสในการซื้อ โดยยังมองกลุ่ม Earnings momentum play ใน 4Q67-1Q68 มีความน่าสนใจ โดยเราชอบ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก และอาหาร (เครื่องดื่มและเนื้อสัตว์) ขณะที่คาดธนาคาร และการเงิน จะเป็นกลุ่มช่วยประคองบรรยากาศรวม 

แนวรับ: 1,370   แนวต้าน : 1,390-1,400 จุด

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    KTB (25) : คาดรายงานกำไรไตรมาส 4/67 ที่ 11,009 ล้านบาท -0.9% QoQ, +21.2% YoY คาดผลตอบแทนปันผลที่ 5% ตัดขาดทุน 20.80 บาท
•    CBG* (85): ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง และการสร้างโรงงานที่พม่าบวกต่อการแย่งส่วนแบ่งการตลาด ตัดขาดทุน 77.25 บาท
•    BTG (21) : คาดกำไร 4Q67F เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรยังปรับดีขึเนต่อเนื่อง ตัดขาดทุน 17.50 บาท
•    SORKON* (5): คาดผลการดำเนินงานใน 4Q67F ฟื้นตัวต่อเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และราคาเนื้อสัตว์มีเสถียรภาพ  ตัดขาดทุน 4.20 บาท  

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 9
-    ผู้ว่าการเฟดชี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจะเป็นตัวกำหนดทิศทางดอกเบี้ยปีนี้
-    คาดความต้องการชิปทั่วโลกโต 11.2% สู่ระดับ 6.97 แสนล้านดอลลาร์ในปี 68
-    ศาลสหรัฐ สั่งตัดสินโทษคดีอาญา โดนัลด์ ทรัมป์ 10 ม.ค. นี้ 
-    ท่องเที่ยว เปิดแผนปี’68 มุ่งตลาดคุณภาพปั้นรายได้ 3.2 ล้านล้าน

-    ปี68 พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออก 2-3% ยอมนำเข้าสินค้าเกษตรรับมือ “ทรัมป์ 2.0”
 

 

 

 

-    GULF แจ้งโซลาร์ฟาร์ม 5 โครงการ รวม 295 MW เริ่ม COD แล้ว
-    EASTW กรรมการอิสระ4 ราย ลาออกจากทุกตำแหน่ง  มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.68
-    บทวิเคราะห์วันนี้ : ADVANC แนะนำ ซื้อ เป้า 330 บาท/ TOP แนะนำ ถือ เป้า 27 บาท 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม 

6 ม.ค. – TH CPI (Dec)
7 ม.ค. – EU CPI, US Exports, ISM Service PMI, JOLTs Job Openings 
8 ม.ค. – FOMC Minutes
10 ม.ค. – US Non Farm Payrolls (Dec)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มต้นปีด้วยความผันผวน แต่ยังมองเห็นโอกาสในหุ้นรายกลุ่ม/รายตัว วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มต้นปีด้วยความผันผวน แต่ยังมองเห็นโอกาสในหุ้นรายกลุ่ม/รายตัว