วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KCE ประมาณการ 4Q67: จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอ
คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ KCE ใน 4Q67 จะลดลงมาอยู่ที่ 346 ล้านบาท (-26% YoY, -11% QoQ) เนื่องจากยอดขาย และ อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอทั้งคู่ ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2567 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+7% YoY) ซึ่งจะเป็นไปตามประมาณการเต็มปีของเรา
ทั้งนี้ เราคาดว่ายอดขายใน 4Q67 จะอ่อนแอทั้ง YoY และ QoQ จากผลของปัจจัยฤดูกาล และ อุปสงค์ที่ลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ เหลือเพียง 105 ล้านดอลลาร์ฯ (-9% YoY, -5% QoQ) ทำให้ยอดขายปี 2567 อยู่ที่ 431 ล้านดอลลาร์ฯ (-9%YoY) ซึ่งจะเป็นไปตามประมาณการยอดขายเต็มปีของเรา นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังลดลงอีกใน 4Q67 มาอยู่ที่ 20.0% (-2.4ppts YoY, -0.2ppts QoQ) จากการแข็งค่าของเงินบาท (33.9 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q67 จาก 34.6 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q67) ซึ่งจะมีน้ำหนักมากกว่าอานิสงส์จากราคาทองแดงที่ลดลง ทั้งนี้ ตามปกติแล้วราคาทองแดงจะมี lag time 3 เดือน โดยราคาทองแดงเฉลี่ยใน 3Q67 อยู่ที่ 9,300 ดอลลาร์ฯ/ตัน ลดลงจาก 9,900 ดอลลาร์ฯ/ตันใน 2Q67
แนวโน้มอุตสาหกรรมดูไม่น่าสนใจในปี 2568F
ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเผชิญกับความไม่แน่นอนในปี 2568 และ จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ในปีนี้ แม้ว่า disruption ที่เกิดกับสายโซ่อุปทานดูเหมือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยประเด็นความกังวลทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาวะดอกเบี้ยสูง และ ราคารถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ตลาดยานยนต์เติบโตเพียง 3% ในปี 2568F ทั้งนี้ เนื่องจากประมาณ 70% ของรายได้รวม KCE เกี่ยวข้องกับกลุ่มยานยนต์ เราจึงคาดว่าแนวโน้มยอดขายในปี 2568F จะไม่น่าสนใจ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขาย (ในสกุลดอลลาร์ฯ) ปีนี้เอาไว้ที่ 0-5% ในขณะที่เราใช้สมมติฐานว่ายอดขายปีนี้จะหดตัว 2% YoY
ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มที่อ่อนแอไปมากแล้ว
ราคาหุ้น KCE ลดลงมาแล้ว 40% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 4Q67 และ แนวโน้มที่ไม่น่าสนใจในปี 2568F ไปเรียบร้อยแล้ว โดยราคาปิดล่าสุดคิดเป็น PER ที่ 19X (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต -1.25 S.D.) เรามองว่าจากราคาปิดล่าสุดน่าจะมี downside จำกัดแล้ว เพราะเมื่อเทียบกับเมื่อปี 2562 (ยอดขายหดตัว 10% และ กำไรจากธุรกิจหลักลดลง 50%) และ ปี 2566 (ยอดขายลดลง 11% และ กำไรจากธุรกิจหลักลดลง 32%) ราคาหุ้นในตอนนั้นคิดเป็น PER ที่ -2.0 S.D. และ -1.0 S.D. ตามลำดับ ในขณะที่เราใช้สมมติฐานว่ายอดขายปี 2568 จะหดตัวเพียง 2% YoY และ กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลง9% YoY
Valuation & action
เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ไว้ที่ 27.00 บาท อิงจาก PER ที่ 21.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D.) และ
ยังคงคำแนะนำ “ถือ”
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลน
วัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น