วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนกังวล “ทรัมป์” จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายการตั้งกำแพงภาษี ประกอบกับความกังวลเฟดจะชะลอ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap

โดยวันนี้นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,362.97 จุด -24.75 จุด -1.78% มูลค่าการซื้อขาย 46,868.24 ลบ. Program Trading -2,620.41 ลบ. ต่างชาติ -2,215.83 ลบ. TFEX -20,447 สัญญา ตราสารหนี้ -1,445.83 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+/- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันที่ 9 ม.ค. ไว้อาลัยอดีตประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 73.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นที่ปกคลุมพื้นที่บางส่วนของสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงในฤดูหนาวปรับตัวสูงขึ้น
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยซึ่งได้หารือถึงแนวทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับอินเดีย โดยเห็นพ้องที่จะร่วมกันลดอุปสรรคการค้า เพื่อความคล่องตัวในการค้าขายระหว่างกัน
+ กระทรวงการคลัง เตรียมเรียกประชุมอุมัติโครงการบัตรคนจน มั่นใจ ได้ข้อสรุปชง ครม. ทันก่อนเปิดลงทะเบียนรอบใหม่เดือน มี.ค.68 พร้อมทบทวนสวัสดิการรัฐ หวังให้เกิดประโยชน์-เหมาะสมกับประชาชน

ปัจจัยลบ 

- ไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดรอบเมืองลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย บ้านเรือนเสียหายอีกหลายร้อยหลัง และผลาญทรัพยากรดับเพลิงและน้ำจนถึงขีดจำกัด ขณะที่ประชาชนกว่า 100,000 คนถูกสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่
- รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน วางแผนจะจำกัดการส่งออก ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากบริษัทต่าง ๆ เช่น อินวิเดีย (Nvidia Corp.) อีกรอบ เพียงไม่กี่วันก่อนที่จะหมดวาระ โดยถือเป็นความพยายาม ครั้งสุดท้ายของเขาในการสกัดกั้นไม่ให้เทคโนโลยีขั้นสูงตกไปอยู่ในมือ ของจีนและรัสเซีย

 

- ทางการจีนได้ตรวจพบกลุ่มผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง (mpox) สายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกเมื่อปีที่ผ่านมา
- ttb analytics แจ้งว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยเห็นสัญญาณ การฟื้นตัวต่อเนื่องเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 แต่เมื่อ มองในมุมที่กว้างขึ้น พบว่า ไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่ากลุ่มประเทศที่ได้รับ ความนิยมในการท่องเที่ยวอื่นๆ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังมีแรงกดดันจากแรงขายในกลุ่มหุ้นที่มีการวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบกับนักทุนยังกังวลนโยบายการค้าของสหรัฐ มองกรอบดัชนีที่ 1,350-1,370 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

WARRIX "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 4.70 บาท)
"คาดกำไรงวด 4Q67 เติบโต QoQ, YoY เนื่องจากเป็นช่วง High season ของบริษัท"

•งวด 4Q67 คาดรายได้จากการขายจำนวน 468 ลบ. +9%QoQ, +19%YoY เป็นไตรมาสที่บริษัทมีรายได้สูงสุดของปี เติบโตจากสินค้า Licensed การขายเสื้อทีมชาติไทบ ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ระหว่างวันที่ 8 ธ.ค. 67 ถึง วันที่ 5 ม.ค. 68 และ สินค้า Non-Licensed เช่น สินค้าคลาสสิค สินค้าคอลเลคชั่น และสินค้าทำตามคำสั่ง (Made to Order) มีสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ที่ระดับ 49.9% จากระดับ 50.0% ใน 3Q67 และ 48.3% ใน 4Q66 จากการควบคุมต้นทุน ได้ดีขึ้น ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิที่ 58.6 ลบ. +7%QoQ, +6%YoY หากกำไรเป็นไปตามที่เราคาดจะทำให้ประมาณการกำไรปี 67 มีอัพไซส์

•คงคาดการณ์รายได้ในปี 67 และปี 68 ที่ 1,576 ลบ. +29%YoY และ 1,891 ลบ. +20%YoY ตามลำดับ จากการเติบโตของทั้ง กลุ่มสินค้า License และ Non-Lisense จากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ คงสมมติฐาน %GPM ปี 67 ที่ระดับ 47.9% และ ปี 68 ที่ระดับ 48.0% โดยคาดมีค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่ปรับตัวขึ้น ส่งเสริมการขายผ่านช่องทาง Modern Trade ค่าโฆษณาและค่าจ้างพรีเซนเตอร์ ค่าใช้จ่ายในการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada, TikTok รวมถึงค่าเช่าพื้นที่สำหรับการเปิด Shop ตามห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 67 และปี 68 เท่ากับ 124 ลบ. -2.6%YoY และ 141 ลบ. +13.6%YoY ตามลำดับ

•เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER ที่ระดับ 20x ซึ่งอยู่ในระดับ -1SD. ของบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมา โดยคาดว่า กำไรปี 68 จะเติบโต 14%YoY และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 68 เท่ากับ 0.235 บาทต่อหุ้น ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 68 เท่ากับ 4.70 บาท มี upside จากราคาปัจจุบันราว 27% คิดเป็น Forward P/E ปี 68 ที่ 16x ขณะที่คาด Dividend Yield ในอนาคต ราว 2.8% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) CK (Bloomberg Consensus 26.75 บาท) มั่นใจรายได้รวม-อัตรากำไรขั้นต้น ปี 2567-69 เติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับปริมาณงานในมือ และขั้นตอนงาน (Process) ของ 3 โครงการใหญ่ในมือที่เริ่มซับซ้อนขึ้น ย้ำชัดพร้อมเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐทุกรูปแบบทั้ง JV และเป็น Sub-Contractor มุ่งเน้นบริหารจัดการปริมาณงานในมือ และต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAFE (Bloomberg Consensus 17.10 บาท) ปักหมุดปี 2568 กำไรเติบโต 20% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว พร้อมลุยเทคโนโลยีช่วยผู้มีบุตรยากใหม่จากสหรัฐอเมริกา หวังยกระดับความปลอดภัย-ผลสำเร็จยิ่งขึ้น แถมกฎหมายสมรสเท่าเทียม เริ่มบังคับใช้ช่วง 22 มกราคม 2568 นี้ หนุนพอร์ตลูกค้าพุ่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IIG (Bloomberg Consensus 12.70 บาท) เร่งดันกำไรฟื้นคืนชีพ พร้อมคาดรายได้โตต่อเนื่องแตะ 1.4-1.5 พันล้านบาท จาก Organic Growth ชู 3 กลยุทธ์ สำคัญ AI, ESG, และ Health tech สร้าง S-Curve ใหม่ รุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มค้าปลีกและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ พร้อมเดินหน้าสร้างพันธมิตรใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SYNEX (Bloomberg Consensus 17.40 บาท) มั่นใจผลงานปี 2567 นิวไฮทะลุเป้า 4 หมื่นล้านบาท จากกลยุทธ์เชิงรุก บุกขยายพอร์ตและนำเข้าสินค้า ชูกลุ่มสินค้าคอมมูนิเคชั่น และคอมเมอร์เชียล เติบโตโดดเด่น เทคโนโลยี AI หนุน ด้านกลุ่มเกมมิ่งได้รับกระแสความนิยม ลูกค้าให้การตอบรับจำนวนมาก (ที่มา ข่าวหุ้น)