เวสต์เทกซัส 74.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 78.29 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (24 ม.ค. 68) ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังทรัมป์เรียกร้องกลุ่มโอเปค ลดราคาน้ำมันดิบลง
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ประเทศซาอุดิอาระเบีย และ โอเปคลดราคาน้ำมันดิบ ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในงาน World Economic Forum ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่งผลให้ตลาดกังวลท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อนโยบายด้านพลังงาน
(-) ตลาดยังคงจับตา และ กังวลต่อท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อนโยบายด้านภาษีศุลกากรที่จะปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป แคนนาดา และเม็กซิโก รวมถึงการขู่ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าต่อรัสเซีย ถ้าหากไม่ยอมทำข้อตกลงยุติการทำสงครามกับยูเครน ในส่วนของจีนยังอยู่ขั้นตอนการพิจารณา ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความผันผวนมากขึ้น
(+) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน หรือ EIA เผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 412 ล้านบาร์เรล โดยลดลงน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ถึงแม้ว่ากำลังการกลั่นน้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวลดลง จากโรงกลั่นแถวอ่าวเม็กซิโก ได้ทำการปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือนนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของท่าเรือฟูไจราห์ปรับตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 13 ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค. รวมไปถึงปริมาณน้ำมันเบนซินของซาอุดิอาระเบียก็ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.84 แตะระดับ 3.33 ล้านตัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งของประเทศซาอุดิอาระเบียได้กลับมาดำเนินการตามปกติหลังจากปิดซ่อมบำรุงไปในช่วงเดือน พ.ย. 67 ส่งผลให้มีอุปทานน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าก๊าซธรรมชาติเหลวและพลังงานชนิดใหม่อื่น ๆ จะเข้ามาแทนที่การบริโภคน้ำมันดีเซลในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น