วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สหรัฐสูงกว่าคาด

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากกระทรวงการคลัง มีแผนที่จะปรับปรุงเงื่อนไขกองทุน LTF ใหม่ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นตลาดทุน มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย DELTA และ AOT
ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,283.97 จุด +13.48 จุด +1.06% มูลค่าการซื้อขาย 38,989.02 ลบ. Program Trading +1,069.38 ลบ. ต่างชาติ +1,008.29 ลบ. TFEX +12,028 สัญญา ตราสารหนี้ +4,776.14 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 3 ว่า กำลังพิจารณาผ่อนปรน โดยร้านค้าจะถอนเงินสดจากดิจิทัลวอลเล็ตออกมาใช้ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่กำหนดให้ร้านค้าถอนเงินสดได้เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป ขณะที่ในด้านประชาชนนั้นจะปรับเงื่อนไขให้ใช้งาน ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 225.09 จุด หรือ -0.50% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟด จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.66% ปิดที่ 71.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มใช้แนวทางการทูตเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนตามที่เขาให้คำมั่นสัญญาไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0%YoY ในเดือนม.ค. สูงกว่า ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% และเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.9% ในเดือนธ.ค.
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ภายใน สิ้นปีนี้ ซึ่งลดลงจากระดับ 80% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาวางแผนจะลงนามคำสั่งในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศอื่น ๆ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐรายงาน CPI ที่สูงกว่าตลาดคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟด จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนี 1,275-1,290 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
หุ้นรายงานพิเศษ
KTC "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ราคาเหมาะสม Bloomber Consensus 48 บาท
"กำไรปี 2567 +2%YoY"
•4Q67 มีกำไรสุทธิ 1,889 ล้านบาท +7%YoY, -2%QoQ ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 7,437 ล้านบาท +2%YoY โดยมีรายได้รวม +8%YoY จากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมและ หนี้สูญได้รับคืนที่ขยายตัวดี แม้พอร์ตรวมลดลง 1%YoY จากการเน้นคัดกรองคุณภาพหนี้และพอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตชะลอตัวจากการปรับเพิ่มอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ ปริมาณการใช้จ่าย ผ่านบัตร +10%YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ +3%YoY NIM 12.9% ลดลงจาก 13.2% ในปี 2566 ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) +15%YoY จากการตัดหนี้สูญเร็วขึ้นตามนโยบายใหม่และการตั้งสำรองสูงขึ้น ต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น 3%YoY จากหุ้นกู้ใหม่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าหุ้นกู้เก่าที่ครบกำหนด
•คุณภาพสินเชื่ออยู่ในระดับดี โดยมี %NPL ลดลงเหลือ 1.95% จาก 2.19% ในปี 2566 ผลขาดทุนด้านเครดิต 6.1% เพิ่มขึ้นจาก 5.2% ในปี 2566 ทั้งนี้ NPL Coverage อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 369% (400% ในปี 2566)
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 2568 เฉลี่ยเกือบ 8 พันล้านบาท +7%YoY เงินปันผลปี 67 หุ้นละ 1.32 บำท yield 2.6% (XD 17 เม.ย.) ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 32% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาทำให้ upside เหลือไม่มาก แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
หุ้นมีข่าว
(+) DELTA (Bloomberg Consensus 111.50 บาท) มั่นใจอนาคตยังดี เดินหน้าลงทุนไม่หยุด จ่อเปิดโรงงานใหม่บางปูและเวลโกรว์ รองรับดาต้าเซ็นเตอร์ มั่นใจภาษีที่เพิ่มขึ้นกระทบปานกลางมีกองทุนช่วยอยู่ ขณะที่อุตสาหกรรม Data Center และ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้มี DeepSeek AI ต้นทุนต่ำเข้ามา มองแง่ดีหนุนพัฒนา AI พร้อมปรับธุรกิจให้สอดคล้องการเปลี่ยนแปลง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PTG (ราคาเหมาะสม 10.00 บาท) มองราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยยังทรงตัวต่ำ หนุนศักยภาพการบริโภคในประเทศ เดินหน้าขยายทั้งสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจ Non Oil ตั้งเป้ารายได้รวมโต 8-10% พร้อมลุยขยายสาขาศูนย์บริการซ่อมเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า 100 สาขา เล็งร่วมมือกับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ก.แรงงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ต่อยอดบุคลากรทั้งธุรกิจขนส่ง และ ออโต้แบคส์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) OR (ราคาเหมาะสม 15.10 บาท) ไตรมาส 4/2568 กำไร 2.99 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% YoY จากทุกธุรกิจเติบโตดี ดันทั้งปี 2567 กำไร 7.6 พันล้านบาท พร้อมคาดผลดำเนินงานปี 2568 เปิดแผนชิงมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจ Lifestyle เล็งหาโอกาสลงทุนร่วมกับพันธมิตร-ศึกษาธุรกิจด้านเฮลธ์แอนด์เวลเนส จ่อขยายลงทุนไปต่างประเทศเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) COCOCO (Bloomberg Consensus 14.50 บาท) เดินหน้าขยายธุรกิจสู่ฟิลิปปินส์ เซ็น MOU กับนิคมอุตสาหกรรม Anflo Industrial Estate ประเทศฟิลิปปินส์ เตรียมตั้งโรงงานผลิตกะทิ กำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์กะทิเพิ่มขึ้นจากเดิม 99,000 ตันต่อปี เป็นประมาณ 155,000 ตันต่อปี รองรับการขยายตลาดในอเมริกาและยุโรป หวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก (ที่มา ทันหุ้น)