วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ MAJOR อุตสาหกรรมภาพยนตร์แข็งแกร่งขึ้นในปี 2568

ขณะที่ ปัจจัยหนุนหลักจากการมีภาพยนตร์ที่น่าเฝ้าติดตามชมในปี 2568 มากกว่าปี 2567 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคต่อ อย่างเช่น Captain America: Brave New World, Avatar: Fire and Ash และ Mission Impossible 8 อีกทั้ง ยังมีภาพยนตร์ไทยมากกว่า 70 เรื่องเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2568F (เทียบกับ 30-40 เรื่องในปี 2567) เนื่องจากภาพยนตร์ไทยได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงสองปีที่ผ่านมา สิ่งนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายตั๋วและอาหารเครื่องดื่มเติบโตดี ส่วนรายได้จากการขายโฆษณา (12% ของรายได้รวม) คาดว่าจะเติบโต 20% YoY จากการมีผู้เข้าชมในโรงภาพยนตร์และจำนวนภาพยนตร์ไทยเพิ่มขึ้น

ในด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ยังมีเป้าหมายที่จะเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ด้วยการนำตู้ Kiosk มาใช้และลดจำนวนพนักงานลง นอกจากนั้น บริษัทจะเพิ่มจอฉายภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องในปี 2568F โดยเพิ่มขึ้นอีก 35-40 จอ ใน 12 โรงภาพยนตร์ ด้วยงบลงทุน (CAPEX) ราว 500 ล้านบาททำให้จะมีจำนวนจอรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 898 จอ

คงประมาณการกำไรของเราปี 2568F-2569F

เรายังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อ guidance ของบริษัท โดยเชื่อว่าผู้ชมยังมีการเลือกชมภาพยนตร์อยู่ ด้วยสมมติฐานจำนวนผู้ชมอยู่ที่ 33.8 ล้านคน (+15% YoY) ขณะที่ เราคงประมาณการกำไรของเราที่ 828 ล้านบาท (+11% YoY) ในปี 2568F เป็นเพราะแนวโน้มภาพยนตร์ที่น่าสนใจจะขับเคลื่อนให้รายได้เติบโตกับ margin ดีขึ้นด้วย และกำไรยังจะโตต่อเนื่องอยู่ที่ 853 ล้านบาท (+3% YoY) ในปี 2569F ในระยะสั้น เราคาดว่ากำไรใน 1Q68F ของบริษัทจะเติบโต YoY จากการคาดว่าจำนวนผู้ชมจะเพิ่มขึ้นแต่กำไรอาจลดลง QoQ ตามฤดูกาล

 

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำถือ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 15.00 บาท อิงจาก PE ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต)
ความเป็นไปได้ของโมเมนตัมบวกในอนาคตอันใกล้จะเป็น catalyst ระยะสั้นต่อโอกาสในการซื้อขาย

Risks

รายได้จากโรงภาพยนตร์และธุรกิจสื่อโฆษณาต่ำกว่าที่คาด