วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี DIF กำไรจากการลงทุนและเงินปันผลเป็นไปตามคาด

ส่วนผลการดำเนินงาน 4Q24 เป็นไปตามคาด มีกำไรจากการลงทุน 2,935 ลบ. (+2%y-y +1%q-q) และเงินปันผลหุ้นละ 0.22 บาท (yield 2%) สำหรับปี 25F คาดกำไรจากการลงทุนทรงตัว และคาดจ่ายเงินปันผล 0.88 บาท (yield 11%)

ผลการดำเนินงาน 4Q24 มีกำไรจากการลงทุน 2,935 ลบ. (+2%y-y +1%q-q)

ใน 4Q24 ผลการดำเนินงานกองทุนรวม DIF มีกำไรจากการลงทุน 2,935 ลบ. (+2%y-y +1%q-q) เป็นไปตามเราคาด โดยกำไรจากการลงทุน (ไม่รวมรายการทางบัญชี) เติบโต y-y เนื่องจากค่าใช้จ่ายการเงินลดลง (-4%y-y) และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน 4Q23 ทั้งนี้กองทุนฯ บันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุนเป็นผลขาดทุน -10,333 ลบ. (รายการทางบัญชี)เนื่องจากปรับอัตราคิดลดสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 7,398 ลบ.

ปี 2024 มีกำไรจากการลงทุน 11,663 ลบ. (-2%y-y) ลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายการเงิน (+4%y-y) เพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ขณะที่รายได้ค่าเช่าทรงตัว รวมทั้งมีรายการการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน -11,007 ลบ. (รายการทางบัญชี) ทำให้ผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ 656 ลบ. (-92%y-y) ลดลงจากผลขาดทุนทางบัญชีเพิ่มขึ้นจากปี 23 ทั้งนี้กองทุนฯ จ่ายเงินปันลปี 24 รวมอัตราหน่วยละ 0.89 บาท (yield 11%)

ทิศทางปี 2025 คาดจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.88 บาท (yield 11%)

ในปี 2025F เราคาดว่ากองทุนรวม DIF จะมีกำไรจากการลงทุน 7,569 ลบ. ทรงตัว y-y ตามรายได้ค่าใช้เช่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาจากที่ทำไว้กับผู้เช่าหลัก (กลุ่ม TRUE) รวมทั้งคาดกองทุนฯ จะจ่ายเงินปันผลปี 25 อัตราหุ้นละ 0.88 บาท (yield 11%) ใกล้เคียงกับปี 24 ส่วนใน 1Q25F กองทุนฯ มีกำหนดจะ Refinance เงินกู้จำนวน 12,000 ลบ. เราประเมินอัตราดอกเบี้ยลดลงทุก 0.25% จากอัตราเฉลี่ย 5.6% จะช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลง 4% คาดมีโอกาสจ่ายเงินปันผลเพิ่ม 0.01 บาทต่อหน่วย

คำแนะนำ 

แนะนำ Buy สำหรับ DIF (TP25F 11.50 บาท) ประเมินวิธี DCF WACC 7.5% เนื่องจาก 1) รายได้ของกองทุนฯ มีเสถียรภาพจากสัญญาระยะยาวถึงปี 2033 (ระยะเวลาคงเหลือ 8 ปี) 2) มีโอกาสขยายอายุสัญญาอีก 10 ปีจากปี 2033 (เงื่อนไขรายได้ บรอดแบนด์กลุ่ม TRUE เกิน 16,500 ลบ.) และ 3)มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการลงทุนในทรัพย์สินประเภทเสาโทรคมนาคมของกลุ่ม TRUE