วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

หลังจากที่ผลการดำเนินงานใน 4Q67 ออกมาน่าประทับใจ โดยมีกำไรปกติ 1.45 พันล้านบาท (+40.2%YoY และเพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ) เราคาดว่าโมเมนตัมกำไรของ AAV จะยังเป็นบวกต่อเนื่องใน 1Q68

โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญดังนี้ i) 1Q เป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่การท่องเที่ยวแข็งแกร่งตามฤดูกาล ii) ราคาตั๋วอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะอุปสงค์แข็งแกร่ง และ iii) ต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ทั้งนี้ จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 22.2% YoY เป็น 3.71 ล้านคนในเดือนมกราคม 2568 โดยนักท่องเที่ยวจากจีนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตสูงกว่า (นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ) ที่ 30.3% YoY เป็น 0.66 ล้านคนในช่วงเดือนมกราคม นอกจากนี้ สถิติเบื้องต้นแสดงว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 1 มกราคม-2 มีนาคมอยู่ที่ 7.02 ล้านคน (+5.9% YoY) โดยนักท่องเที่ยวจากจีนยังคงครองอันดับหนึ่งที่ 1.05 ล้านคน (ประมาณ 15% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด) รองลงมาคือมาเลเซีย (0.88 ล้านคน), รัสเซีย (0.50 ล้านคน), เกาหลีใต้ (0.39 ล้านคน) และอินเดีย (0.37 ล้านคน) สำหรับตลาดในประเทศ เราคิดว่า AAV จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดโดยมีส่วนแบ่งตลาด 40% ได้เหมือนกับในปี 2567 ทั้งนี้ AAV ฟื้นตัวได้ดีเป็นพิเศษในปี 2567 โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 20.8 ล้านคน (+10.3% YoY และ 94% ของระดับก่อน COVID ระบาด) และ load factor สูงถึง 91% ในจำนวนนี้ เป็นผู้โดยสารในประเทศ 13.1 ล้านคน (+11% YoY) และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 7.7 ล้านคน (+10%YoY)  ส่วนในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารไว้ที่ 23-24 ล้านคน, load factor ที่ 90% และอัตราการใช้งานเครื่องบิน (utilization rate) ที่ 12.5 ชั่วโมงต่อลำ ทั้งนี้ การแข็งค่า 1 บาท/ดอลลาร์ จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาท

 

 

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2568F ขึ้นอีก 6.2%

เมื่อพิจารณาจากเป้าปี 2568 ของบริษัทแล้ว เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มของบริษัทในปี 2568F เพราะก่อนหน้านี้เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะอยู่ที่ 21.8 ล้านคน และ ค่าตั๋วเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2,000 บาท ทั้งนี้ เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติของ AAV ในปี 2568F ขึ้นอีก 6.2% เป็น 3.25 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนถึง i) สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารที่ 22.5 ล้านคน (+8.0% YoY) จากเดิม 21.8 ล้านคน และ ii) ค่าตั๋วเฉลี่ยที่ทรงตัวที่ 1,967 บาท (จาก 2,000 บาท) นอกจากนี้ เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานใน 1Q68F จะถูกขับเคลื่อนโดย i) ช่วง high season ของการท่องเที่ยว ii) จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง iii) ค่าตั๋ว และ load factor ที่สูงทั้งคู่ และ iv) บริหารจัดการต้นทุนได้ดี ทั้งนี้ เราไม่ได้รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ในประมาณการกำไรของบริษัท เพราะรายการนี้เพียงแต่แสดงในรูปของมาตรฐานทางบัญชีเท่านั้น โดยไม่มีเงินสดเข้าออกบริษัทจริง

Valuation & Action

จากแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในปี 2568F เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568
ใหม่ที่ 3.80 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 8x ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ pre-COVID) จากเดิมที่ 3.60 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพการเมืองไทยรอบใหม่ และ เกิดเหตุก่อการร้าย

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV คาดจะไต่เพดานบินสูงในปี 2568F