วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound ต่อ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด :  บล.โกลเบล็ก Rebound ต่อ

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up โดยได้แรงหนุนจากสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และ PPI ปรับตัวขึ้นต่ำกว่าคาดการณ์

ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาด 1 ครั้งในปีนี้ มีแรงซื้อมากนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง ค้าปลีก และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,173.76 จุด +14.12 จุด +1.22% มูลค่าการซื้อขาย 38,450.28 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -28.27 จุด -2.35%) Program Trading -430.80 ลบ. ต่างชาติ -119.56 ลบ. TFEX +10,625 สัญญา ตราสารหนี้ +4,338.52 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 674.62 จุด หรือ +1.65% หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูกที่ผันผวนจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น จนนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและ ทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ +1.0% ปิดที่ 70.58 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดตลาดในสัปดาห์นี้แทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ นักลงทุนประเมินแนวโน้มที่ลดลงของการยุติสงครามในยูเครนได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้มีพลังงานจากรัสเซียกลับเข้าสู่ตลาดตะวันตกมากขึ้น
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาเห็นสัญญาณที่ดี ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นระยะเวลา 30 วันระหว่างรัสเซียกับยูเครน
+ จีนเปิดเผยแผนงานพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภค ในขณะที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังดำเนินการเพื่อผลักดันให้อุปสงค์ในประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนและเสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยลบ

- ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางการทหารครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮูตีในเยเมน จากการที่กลุ่มฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีการเดินเรือในทะเลแดง พร้อมทั้งเตือนอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮูตี ว่าต้องหยุดให้การสนับสนุนในทันที

 

- กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮูตีเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บอีก 9 ราย จากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อฐานที่มั่นของ กลุ่มฮูตีในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน
- สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการจำกัดวีซ่าเพื่อลงโทษต่อเจ้าหน้าที่ปัจจุบันและในอดีตของไทยที่เกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและทางอ้อมในการบังคับเนรเทศชาวอุยกูร์ ไปยังประเทศจีน
- รัฐสภายุโรปมีมติเสียงข้างมากประณามไทยจากกรณีการส่ง ชาวอุยกูร์ 40 คน กลับจีนเมื่อปลายเดือน ก.พ.2568 และสมาชิกสภาเรียกร้อง ให้คณะกรรมาธิการยุโรปต่อรองผ่านความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อกดดันให้ไทยปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน การลี้ภัย สิทธิมนุษยชน และยับยั้งการเนรเทศชาวอุยกูร์
- ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนที่มี ความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 19.1% ลดลงจากระดับ 19.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว
- สหรัฐฯ กำหนดให้เกาหลีใต้เป็นประเทศอ่อนไหว (sensitive country) หลังมีประกาศกฎอัยการศึกชั่วคราว และมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีใต้จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าสงครามการค้าขยายวงสู่การตอบโต้ ด้วยกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกากับยุโรป เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากจีนเปิดเผยแผนงานพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภค ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,165-1,180 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่งออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC

 

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO

หุ้นรายงานพิเศษ  

BEM  ("ซื้อ" Bloomberg Consensus 10.60)
"บริเวณหน้าด่านดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด :  บล.โกลเบล็ก Rebound ต่อ

•ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกทรุดตัว ทำให้การทางพิเศษ แห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว โดยประชาชน ที่ต้องการขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมือง ขอให้ขับรถมุ่งหน้าไปแยกบางปะแก้วและใช้ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อไปใช้ด่านฯ สุขสวัสดิ์แทน และประชาชนที่จะเดินทางมุ่งหน้าไปสมุทรสาคร โดยใช้สะพานพระราม 9 ให้ลงทางออกถนนสุขสวัสดิ์แทน เพื่อมุ่งหน้าไปถนนพระราม 2 (ที่มาอินโฟเควสท์)

ความเห็น จากการสอบถามไปยังบริษัท พื้นที่ก่อนสร้างที่ทรุดตัวเป็นของ กทพ. ทำให้บริษัท ไม่ต้องมีการจ่ายค่าซ่อมแซม ทั้งนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้ใช้ทางด่วนที่ อาจลดลง (รถจากพระราม 2 ขึ้นทางด่วนจากด่านดาวคะนองราว 3-4 หมื่นคันต่อวัน) ซึ่งคาดว่าระยะเวลาซ่อมแซมราว 1 เดือน อย่างไรก็ตามทั้ง กทพ. ผู้รับเหมาฯ และ BEM มีประกันคุ้มครองซึ่งจะสามารถเบิกค่าเสียรายได้ในอนาคต ระยะสั้นอ่อนตัวลงเป็นจังหวะ เข้า “ซื้อ” เนื่องจากมี upside ราว 90%

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg Consensus 19.00 บาท) ลั่นรายได้ลูกค้าประกันสังคมปีนี้โตเด่น เชื่อจำนวนผู้ประกันตน เพิ่ม-RW>2 ปรับขึ้น ด้านผู้ป่วยจากมัลดีฟส์เริ่มทยอยมารักษาเมษายน 2568 ศูนย์ใหม่เปิดให้บริการปี 2567 ผลงานดีต่อเนื่อง มั่นใจ 3 รพ.ที่เปิดใหม่ปี 2563-2564 พลิกกำไรปีนี้ 2 แห่ง หนุนรายได้รวมปี 2568 เพิ่ม 10% พร้อมทุ่มงบ 840 ล้านบาท ปรับปรุงรพ.-ซื้อเครื่องมือแพทย์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASIAN (Bloomberg Consensus 9.00 บาท) วางหมากปี 2568 รายได้ทะยาน 5% จากปีก่อน อานิสงส์ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง-สัตว์น้ำสดใส ผู้บริหารใส่เกียร์เดินหน้าทุ่มงบลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านบาท ปั้นคลังสินค้าใหม่-รีโนเวตเครื่องจักรเพิ่ม เสริมแกร่งรับทรัพย์ระยะยาว แถมร่วมทุน "ออริจิ้น" แตกไลน์ลุยอสังหาริมทรัพย์ เปิดช่องทางโกยเงินเข้าพอร์ตเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 33.90 บาท) ปักเป้าปี 2568 อีบิทดาเติบโตราว 5-10% จากปีก่อน อานิสงส์เก็บเกี่ยวขายไฟพุ่ง พร้อมเล็งทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้านบาท สยายปีกโรงไฟฟ้า-ต่อยอดธุรกิจเพิ่ม ปูทางโกยเงินระยะยาว แถมปรับแนวทางรุกพอร์ตสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CH (Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนธุรกิจปี 2568 โชว์นวัตกรรมผลไม้อบแห้งลุยตลาดนอก ดันเป้ายอดขายมากกว่า 2.2 พันล้านบาท มุ่งรักษาอัตรากำไรขั้นต้น 16% ขณะที่ขนมเพื่อสุขภาพดาวเด่นที่กำลังได้รับความนิยมผลักดันต่อเป็น New S-Curve ร่วมสร้างการเติบโตระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)