กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ภาพตลาดดูดีขึ้นในระยะสั้น

ในสัปดาห์ที่แล้ว (10-14 มีนาคม) ดัชนี SET ยังลงต่อ และ อ่อนแอกว่าที่เราคาดเอาไว้ ถึงแม้ตลาดจะดีดตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
แต่ผลตอบแทนรายสัปดาห์ยังติดลบโดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดดังนี้
ปัจจัยแรก คือ กระทรวงการคลังออกกองทุน Thai ESGX เพื่อมารับ NAVs จากกองทุน LTFs เดิม และ
อัดฉีดสภาพคล่องใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดจากเม็ดเงินใหม่ที่เข้ามาซื้อ ปัจจัยนี้ทำให้หุ้นในธีม ESG หลายตัวที่ตกหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาดีดตัวกลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยที่สอง ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากการที่ Trump ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศหลักสองสามประเทศ ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำในปีนี้ตามแบบจำลอง GDP ของ Fed สาขา Atlanta
สำหรับในสัปดาห์นี้ (17-21 มีนาคม) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง จากประเด็นการลงทุนดังต่อไปนี้
ประเด็นแรก คือ ภาวะตลาดในประเทศที่ราคาหุ้นระดับนี้ และ ดัชนี SET ที่ระดับปัจจุบันถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลัก และ ผู้เล่นในตลาดบางรายเชื่อว่ากองทุนวายุภักษ์เข้ามาซื้อหุ้นในตลาด
ประเด็นที่สอง เรามองว่ามีโอกาสที่ dot-plot และ ประมาณการเศรษฐกิจของ FOMC จะออกมาในเชิงที่เป็นบวกกับตลาด โดยเราคาดว่า Fed จะเปลี่ยนท่าทีมาเป็น dovish มากขึ้นจาก dot-plot ปัจจุบันที่ออกไปทาง hawkish นอกจากนี้ เรายังมองว่า Fed จะยังคงส่งสัญญาณว่า GDP สหรัฐยังประคองตัวได้
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเดือนกุมภาพันธ์, ผลการประชุม FOMC และ กระแสข่าว digital wallet และการตั้งกองทุน Thai ESGX
ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเดือนกุมภาพันธ์ อย่างเช่น ยอดค้าปลีก
(17 มีนาคม), ดัชนีของตลาดอสังหาริมทรัพย์บางตัวที่จะประกาศออกมาในระหว่างสัปดาห์ ii) ผลการประชุม FOMC ในวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 4.50% และ ออกประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ รวมถึงประมาณการอัตราดอกเบี้ยโดยใช้ dot-plot ด้วย
ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นผ่าน digital wallet ที่จะแจกเงินให้กับวัยรุ่น 2.7 ล้านคน ii) รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งกองทุน Thai ESGX ซึ่งจะเสนอขายนักลงทุนในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
เน้นหุ้นการบริโภคที่โยงกับจีน และ หุ้นในพอร์ตหุ้นแนะนำเดือนมีนาคมของเรา
การที่รัฐบาลจีนตัดสินใจกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนจะช่วยหนุนหุ้นที่โยงกับจีนที่ถูกเทขายหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่น IVL* และ SCGP* ส่วนทางด้านของปัจจัยภายในประเทศ การที่รัฐบาลมีแผนจะดำเนินมาตรการ digital wallet เฟสใหม่โดยแจกเงิน 10,000 บาทให้กับวัยรุ่น 3 ล้านคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เรามองว่า CPALL* และ CPAXT จะเป็นหุ้นหลักที่ได้อานิสงส์จากประเด็นนี้ สำหรับกลุ่มธนาคาร เราชอบธนาคารที่มี upside ในแง่ของเงินปันผลอย่างเช่น KBANK* และ KTB* โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม KBANK* ประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษ 2.5 บาท/หุ้น นอกจากนี้ เรายังชอบหุ้นกลุ่ม F&B ที่ผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มแข็งแกร่ง อย่างเช่น BTG* และ TFG* ด้วย