วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 26.3% YoY ในปี 2567 และคาดโมเมนตัมบวกต่อในปี 2568F

ในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 35.5 ล้านคน (+26.3% YoY) ใกล้เคียงกับที่เราคาด ส่วนปี 2568F KGI คาดว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 ล้านคน (+6.9% YoY) ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ระดับก่อนโควิด-19 (39.8 ล้านคนในปี 2562) ขณะที่สมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวของ KGI ยังต่ำกว่าเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (เป้าที่ 39-40 ล้านคน) อย่างไรก็ดี เราคิดว่านักท่องเที่ยวจีนจะยังเติบโต YoY แม้ว่าอัตราารฟื้นตัวจะช้ากว่าความเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลจีนกำลังส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่ในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 16 มีนาคม 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยอยู่ที่ 7.29 ล้านคน (+3.9% YoY) โดย 5 กลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก ๆ มาจากจีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้

กลุ่มธุรกิจโรงแรมยังดูแข็งแกร่งใน 1Q68F

เราเชื่อว่ากลุ่มธุรกิจโรงแรมใน 1Q68F น่าจะยังดีอยู่ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่ประเทศไทยยังเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ แนวโน้มกลุ่มการท่องเที่ยวในภาพรวมปี 2568 น่าจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยรัฐบาลกำลังเตรียมมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ โดยที่แผนดังกล่าวรวมถึงการนำโครงการที่ประสบความสำเร็จในอดีต ได้แก่ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาใช้อีกครั้ง

หากมองไปข้างหน้าใน 2Q และ 3Q โดยปกติจะเป็นไตรมาสที่ชะลอตัว QoQ หลังจากผ่านช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุดของประเทศในไตรมาสแรกของปี แต่อย่างไรก็ดี ภาพยนตร์ซีรีส์ White Lotus ซีซั่น 3 ที่ได้ถ่ายทำในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และสมุยอาจเป็นตัวกระตุ้นการท่องเที่ยวได้บ้าง โดยที่ MINT ให้ guidance ว่า ประเด็นนี้จะช่วยดันให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ของโรงแรมทำเลดังกล่าวขึ้นราว 40%

 

 

กลุ่มธุรกิจร้านอาหารดูน่าสนใจน้อยกว่ากลุ่มธุรกิจโรงแรม

แม้ว่าเราจะมองเป็นกลางต่อแนวโน้มรวมกลุ่มธุรกิจอาหารเพราะผลการดำเนินงานไม่น่าตื่นเต้นมาหลายปี (เช่น ยอดขายร้านสาขาเดิม (SSSG) ดีขึ้นช้า) แต่แนวโน้มก็น่าจะดีขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (เช่น การตัดร้านค้าที่ขาดทุนออกไปจากพอร์ตของบริษัท) ทั้งนี้ จากข้อมูลการวิจัยของ Mordor Intelligence คาดว่าระบบเชนร้านอาหารจะการเติบโตแข็งแกร่ง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 8% ในช่วงปี 2567-2572 โดยที่แนวทางการเติบโตนี้หลัก ๆ จะถูกขับเคลื่อนโดยแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง อย่าง BobChon Chicken, Burger King, Chester’s Grill และ KFC ซึ่งยังคงขยายสาขาไปในทำเลท่องเที่ยวหลัก ๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และเชียงใหม่

คงให้น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาด ฯ” โดยเราเลือก ERW เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่ม

เรายังคงมองกลุ่มโรงแรมเป็นบวก โดยคาดจะเห็นการฟื้นตัวต่อในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่เรายังคงให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มนี้ที่ “มากกว่าตลาด ฯ” ทั้งนี้ เราเลือก ERW เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่ม จากมีฐานโรงแรมราคาประหยัด (budget hotel) แข็งแกร่งและการขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยที่เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ERW ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 5.20 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 13.4x หรือเท่ากับ -0.75 S.D.)

Risk

โรคระบาด, เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความไม่สงบทางการเมือง

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

 

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector คาดการเติบโตยังต่อเนื่องในปี 2568F