วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี THG การปรับโครงสร้างเงินทุนจะชัดเจนกลางปีนี้

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี THG การปรับโครงสร้างเงินทุนจะชัดเจนกลางปีนี้

มีมุมมองเป็นลบต่อโทนการประชุมกับ THG เนื่องจาก 1) เดือน ม.ค.-ก.พ.รายได้ธุรกิจ รพ. และการโอนห้องชุดต่ำกว่าเป้าหมายบริษัท 2) ยังมีความเสี่ยงสภาพคล่องจนกว่าการเพิ่มทุนจะชัดเจน

และ 3) ต้องใช้เวลาฟื้นความเชื่อมั่น ทำให้รายได้รวมปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการบริษัทและรอความชัดเจนเรื่องการเพิ่มทุน จึงยังไม่มีคำแนะนำสำหรับ THG เรามองว่าจุดที่ควรกลับมาสนใจคือ แผนเพิ่มทุนมีความชัดเจนเพื่อความเสี่ยงสภาพคล่อง และรายได้ธุรกิจหลักกลับมาเติบโต

ประเด็น 

- รายการพิเศษในงบการเงินรวมปี 24 มีจำนวนรวม -1,651 ลบ. ประกอบด้วย 1) การตั้งด้อยค่าเงินลงทุนและทรัพย์สินของบ.ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำนวน 808 ลบ. 2) การตั้งด้อยค่าสิทธิการใช้ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง จำนวน 279 ลบ. และ 3) การตั้งค่าเผื่อหนี้สูญรวม 565 ลบ. ส่งผลให้กำไรสะสมลดลง 80%y-y เหลือ 477 ลบ. ขณะที่งบเฉพาะกิจการมีขาดทุนสะสม 105 ลบ.

- โครงการจิณณ์ฯ (ธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ) มีมูลค่าคงเหลือ 3,200 ลบ. (รวมเงินกู้) ส่วน รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง มีมูลค่าเงินลงทุนคงเหลือสุทธิ 850 ลบ. (สัญญาเช่าคงเหลือ 13 ปี)

- ผลการดำเนินงานปกติปี 24 ขาดทุน -178 ลบ. แย่ลง y-y เนื่องจาก 1) รายได้รวม (-4%y-y) ลดลงจากรายได้ธุรกิจ รพ. และรายได้ขายห้องชุดโครงการจิณณ์ 2) ต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ทรงตัว y-y มีสาเหตุจากการปรับโครงสร้าง รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง และการตั้งโบนัสเพิ่มของ รพ.ธนบุรี และ รพ.ธนบุรี ทวีวัฒนา ส่งผลให้ Gross margin รวม และ EBITDA margin รวม ลดลงเป็น 22.2% / 14.9% ตามลำดับ

- สิ้นปี 24 THG มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 10,061 ลบ. (-2%y-y) แบ่งเป็น เงินกู้สถาบันการเงิน 8,091 ลบ., หุ้นกู้ 1,619 ลบ. และหนี้สินสัญญาเช่ารวม 352 ลบ. รวมทั้งมีอัตราหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.2 เท่า (IBD/Equity)

- ตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย 3 กลยุทธ์ 1) ปรับโครงสร้างผู้บริหาร, ยกระดับการ บริหารและกำกับดูแลทางการเงินให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อองค์กร 2) ปรับ

โครงสร้างเงินทุน (ลด IBD ratio, ลดต้นทุนการเงิน, เพิ่มทุน) และ 3) ปรับนโยบายการลงทุน เน้นสร้างประโยชน์สูงสุดจากสินทรัพย์ปัจจุบัน, ลดการลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักและสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ

- มีโอกาสเพิ่มทุนราว 5,300-7,100 ลบ. คาดมีความชัดเจนช่วง 2Q25-ต้น 3Q25

- เป้าหมายปี 2025 มีรายได้รวม 10,300 ลบ. เติบโต 9%y-y โดยธุรกิจ รพ.ตั้งเป้าหมายรายได้ 9,200 ลบ. เติบโต 10%y-y รวมทั้งตั้งเป้าหมาย Gross margin รวม และ EBITDA margin รวม ที่ 24% และ 21% ตามลำดับ

- การขยาย Capacity ของเครือ รพ. ตามแผนเดิม โดยปี 25 กลุ่ม THG จะมีเตียงเพิ่ม 72 เตียง ทำให้มีเตียงรวม 1,229 เตียง (+6%y-y) และมีห้องตรวจ OPD เพิ่ม 134 ห้อง จาก รพ.ธนบุรี 1 (เฉพาะห้องตรวจ OPD), รพ.ธนบุรี ทวีวัฒนา, รพ.ธนบุรี ราษฎร์ยินดี และรพ.ธนบุรี ตรัง

- เดือน ม.ค.-ก.พ.25 ภาพรวมรายได้ธุรกิจ รพ. ลดลงเล็กน้อย y-y (vs 1Q24 รายได้ รพ. 2,055 ลบ.) ผู้บริหารมองว่าเป็นผลจากฐานสูงใน 1Q24 ที่มีผลบวกโรคระบาดมากกว่า ประกอบกับเป็นช่วงปรับทีมผู้บริหารของ รพ.ธนบุรี 1 และรพ.ธนบุรี บารุงเมือง ส่วนธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุโครงการจิณณ์ มียอดโอน 1 ห้อง (vs ปี 25 ตั้งเป้าหมายยอดโอน 3 ห้องต่อเดือน)

ความเห็นและคำแนะนำ

- เรามีมุมมองเป็นลบต่อโทนการประชุมกับ THG เนื่องจาก 1) ใน 2 เดือนแรกปีนี้รายได้ธุรกิจ รพ. และการโอนห้องชุดโครงการจิณณ์ต่ำกว่าเป้าหมายบริษัท 2) ยังมีความเสี่ยงสภาพคล่องจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการเพิ่มทุน และ 3) การฟื้นความเชื่อมั่นต้องใช้เวลา ทำให้รายได้รวมปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายบริษัท

- แนวโน้ม 1Q25F เบื้องต้นคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวเป็นกำไร ดีขึ้น y-y (1Q24 กำไรสุทธิ 6 ลบ.) และ q-q (4Q24 ขาดทุนสุทธิ 1,462 ลบ.) เนื่องจาก 1) คาดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลงจาก รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง

 

และธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ 2) คาดค่าใช้จ่ายการเงิน (-7%y-y) ลดลงจากเงินกู้สถาบันการเงิน 3) คาดจะบันทึกรายได้จากขายที่ดิน 57 ลบ. (ก่อนภาษี) และ 4) ไม่มีรายการพิเศษเหมือน 4Q24 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณา EBITDA คาดยังลดลง y-y (1Q24 EBITDA 358 ลบ.) แต่ดีขึ้นเล็กน้อย q-q (4Q24 EBITDA 155 ลบ.) เนื่องจากรายได้รวมลดลง y-y จากรายได้ธุรกิจ รพ. และรายได้ธุรกิจที่อยู่อาศัย คาดโอนห้องชุด 1 ห้อง น้อยกว่า 1Q24 โอน 3 ห้อง และ 4Q24 โอน 2 ห้อง

- เรายังไม่ให้คำแนะนำสำหรับ THG (เดิม Reduce) เนื่องจากอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการบริษัท และรอความชัดเจนเรื่องการเพิ่มทุน โดยมองว่าจุดที่ควรกลับมาสนใจคือ มีความชัดเจนเรื่องการเพิ่มทุนเพื่อลดความเสี่ยงสภาพคล่องของบริษัท และรายได้ธุรกิจหลักกลับมาเติบโต

- หุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์ เราเลือก BDMS (Buy TP 37.50 บาท) และ BCH (Buy TP 19 บาท) โดย BDMS น่าสนใจจากตลาดเป้าหมายมีความยืดหยุ่นและกระจายตัว รวมทั้งคาดปีนี้กำไรเติบโต 10%y-y เด่นอันดับ 2 ของกลุ่มฯ ส่วน BCH น่าสนใจจากผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด คาดปีนี้กำไรเติบโต 29%y-y เด่นสุดในกลุ่มฯ (vs คาดปีนี้กลุ่มฯ มีกำไรรวมเติบโต 10%y-y)

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี THG การปรับโครงสร้างเงินทุนจะชัดเจนกลางปีนี้

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี THG การปรับโครงสร้างเงินทุนจะชัดเจนกลางปีนี้