วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ ขณะที่ นักลงทุนจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่เริ่มอภิปรายตั้งแต่วานนี้

และจะลงมติในวันพรุ่งนี้ มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มไอซีที พลังงาน และค้าปลีก มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร และอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,190.06 จุด +3.45 จุด +0.29% มูลค่าการซื้อขาย 23,373.33 ลบ. Program Trading -393.95 ลบ. ต่างชาติ -82.28 ลบ. TFEX -7,354 สัญญา ตราสารหนี้ +1,056.37 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 597.97 จุด หรือ +1.42% หลังจาก มีสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) แบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้าง ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ +1.22% ปิดที่ 69.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา
+ ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +0.18 ในเดือนก.พ. จากระดับ -0.08 ในเดือนม.ค.
+ รัฐบาลอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านเปิดกว้างต่อการเจรจาทางอ้อมกับสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยื่นข้อเสนอที่จะทำการเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่
+ ทางการอียิปต์เสนอข้อตกลงฉบับใหม่เพื่อปูทางให้มีการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา หลังอิสราเอลกลับมาเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.8 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 52.7 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว

 

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความ ใน Truth Social ระบุว่า ประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซ จากเวเนซุเอลา จะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% จากสินค้าทุกรายการที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐฯ
- ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคาร กรุงไทยวิเคราะห์แนวโน้มการส่งออกว่า แม้การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์เติบโต 14% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ส่วนหนึ่งยังคงเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ การส่งออกของไทยขยายตัวส่วนหนึ่งจากแรงหนุนของการส่งออกสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เติบโต และปัจจัยชั่วคราวตามการเร่งซื้อจากต่างประเทศ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้เจาะจงเป้าหมาย มากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้าง ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีวันที่ 24-26 มี.ค.นี้ มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,180-1,200 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• กรณี ธปท.ผ่อนปรนมาตรการ LTV แนะนา top pick หุ้นที่อยู่อาศัย ได้แก่ AP LH SIRI SC SPALI QH

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

AMATA ("ซื้อ" Bloomberg Consensus 34.00)
"รายงานกำไร 4Q67 +50%YoY และ +34%QoQ"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

•รายงานกำไร 4Q67 ที่ 1.02 พันล้านบาท +50%YoY และ +34%QoQ โดยได้แรงหนุนจาก ยอดโอนที่ดินที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,147 ไร่ แบ่งเป็นประเทศไทย 825 ไร่ และเวียดนาม 322 ไร่ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีนและไต้หวันราว 75% ทั้งนี้เริ่มมีการขายที่ดินให้ลูกค้ากลุ่ม Data Center แล้ว ด้าน GPM ลดลงเล็กน้อยจาก 34% ใน 3Q/67 เหลือ 33% เนื่องจากการขายที่ดินในเวียดนามอัตรากำไรต่ำกว่าที่ไทย ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไร ปี 2567 ที่ 2.48 พันล้านบาท +32%YoY

•ผู้บริหารตั้งเป้าปี 68 ยอดโอนที่ดินราว 1,800-2,000 ไร่ โดยแบ่งเป็นประเทศไทย 1,500 ไร่ และเวียดนาม 500 ไร่ อีกทั้งปัจจุบันมียอด Backlog อยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะโอนและรับรู้รายได้ 50% ในปี 2568 นอกจากนี้มีแผนปรับขึ้นราคาขายที่ดินอีก 5-10% เป็นปัจจัยหนุน ต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

ความคิดเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 68 เนื่องจากมียอด Backlog แล้วราว 2.12 หมื่นล้านบาท และเตรียมปรับเพิ่มราคาขายที่ดินในชลบุรีและระยอง อีกทั้งราคาหุ้นซื้อขาย ที่ P/E Ratio เพียง 10 เท่า ต่ำกว่า P/E Ratio ของ WHA และกลุ่มนิคมฯ ที่ระดับ 12 เท่า และราคาหุ้นมี Upside 38% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) ANAN (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศความสำเร็จ โชว์ผลงานไตรมาส 1/2568 กวาดยอดขายทะลุเป้าหมายกว่า 3,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น Achieved 120% และ สร้างยอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 กว่า 853 ล้านบาท พร้อมปิดการขายโครงการ แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 เพิ่มอีก 1 โครงการ จากการปรับกลยุทธ์ขายต่างชาติ และความสามารถในการบริหารงานที่แข็งแกร่ง มั่นใจตลาดอสังหาเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILINK (Bloomberg Consensus 8.50 บาท) รับอานิสงส์ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศฮอต หลัง BOI อนุมัติการลงทุน มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท เป็นโอกาสชิงงานอุปกรณ์ส่งสัญญาณ เสริมพอร์ตรับทรัพย์ พร้อมปักธงปี 2568 รายได้แตะ 7.12 พันล้านบาท รับกระแสเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี หนุนดีมานด์ทะลัก แถมบอร์ดไฟเขียวปันผลหุ้นละ 0.42 บาท กำหนดจ่าย 23 พฤษภาคม 2568 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SIRI (Bloomberg Consensus 2.01 บาท) ปลื้มงานมหกรรมบ้านและคอนโด เพียง 4 วัน ทำยอดขายทะลุเป้ากว่า 2,000 ล้านบาท ดันผลงาน Q1 ทะลุหมื่นล้านบาท มั่นใจแรงหนุนจากมาตรการผ่อนคลาย LTV และทิศทางดอกเบี้ยขาลงกระตุ้นตลาดอสังหา พร้อมเดินหน้ารุกไตรมาส 2 เพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MOSHI (ราคาเหมาะสม 55.00 บาท) แย้มผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2568 ยังเติบโตต่อเนื่อง YoY เป็นไปตามเป้าหมายปี 2568 ที่ตั้งไว้เติบโต 15-20% โดยวางงบลงทุน 280 ล้านบาท ในการขยายสาขารวมถึงรีโนเวตสาขาเดิม เพื่อเพิ่ม SSSG ให้มากขึ้น มั่นใจครอง Market Share อันดับ 1 ในตลาดธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย พร้อมเตรียมแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนร่วมกับพันธมิตร (ที่มา ทันหุ้น)