เวสต์เทกซัส 69.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 73.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจะเรียกเก็บภาษี 25% กับประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลาซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.68 ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้ขยายเวลาการยุติการผลิตน้ำมันดิบของ Chevron ในเวเนซุเอลาโดยให้ระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 68 ถึงวันที่ 27 พ.ค. 68 เพื่อลดแรงกดดันจากนโยบายดังกล่าว 

(+) นอกจากนี้ สหรัฐฯ มีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อน้ำมันดิบอิหร่านเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมาซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันดิบขนาดเล็กในจีนและเรืออื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำมันดิบจากอิหร่านให้กับจีน มาตรการนี้นับเป็นการคว่ำบาตรอิหร่านรอบที่ 4 ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนก.พ.68 โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้มาตรการกดดันสูงสุดต่ออิหร่านอีกครั้งและจะผลักดันการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เหลือศูนย์

(-) อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาการเจรจาเพื่อยุติสงครามยูเครน ซึ่งหากการเจรจาเป็นผลสำเร็จจะนำไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ทั้งนี้กลุ่ม OPEC+ ยังคงมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นต่อแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามแผนในเดือน พ.ค. 68  ซึ่งจะส่งผลทำให้อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มมากขึ้น

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นส่วนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20  มี.ค. 68 ปรับลดลงกว่า 39.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าสู่ระดับ 0.52 ล้านตัน ประกอบกับตลาดคาดการณ์ว่าการส่งออกน้ำมันเบนซินของไต้หวันจะปรับลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นภายในประเทศส่งผลทำให้อุปทานในภูมิภาคอาจตึงตัวขึ้น 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นส่วนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันดีเซลของ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20  มี.ค. 68 ปรับลดลงกว่า5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 2.17 ล้านตันซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบปี ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันดีเซลในแอฟริกาใต้ปรับตัวดีขึ้นจากฝนที่ตกหนักซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของโรงไฟฟ้าถ่านหินและต้องหันมาใช้น้ำมันดีเซลแทน