วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยปรับตัวลงต่ำสุดราว -15 จุด ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนของสงครามการค้า

แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และขนส่ง เป็นต้น ประกอบกับนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,128.66 จุด -5.29 จุด -0.47% มูลค่าการซื้อขาย 34,662 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +3.45 จุด +0.5%) Program Trading -201.30 ลบ. ต่างชาติ -1,140.68 ลบ. TFEX -1,243 สัญญา ตราสารหนี้ +1,994.55 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ เม็กซิโกจะเริ่มการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อต่ออายุข้อตกลงทวิภาคีเกี่ยวกับการส่งออกมะเขือเทศของเม็กซิโก ซึ่งสหรัฐฯ ตั้งใจจะถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว
+ ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก เผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิต ประจำเดือนเม.ย. ซึ่งปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ -8.1 จากเดิมที่ -20.0 ในเดือนมี.ค. สดใสกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ -13.5 เท่านั้น
+ กระทรวงการคลังจีน จะออกพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินหยวนชุดที่ 2 ของปีนี้ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงวันที่ 23 เมษายนนี้

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 155.83 จุด หรือ -0.38% โดยตลาดถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ รวมทั้งการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าบริโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 20 เซนต์ หรือ -0.33% ปิดที่ 61.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขณะเดียวกันนักลงทุนพยายามประเมินผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

 

 

- นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยสถานการณ์ต้นปีจนถึงสงกรานต์ปี 2568 ว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงตั้งแต่เดือนก.พ., มี.ค.และเม.ย. สัดส่วนประมาณ 30-40% หลังได้รับผลกระทบจากข่าวของ ซิงซิง นักแสดงชาวจีนที่หายตัวไปในประเทศไทย การส่งตัวอุยกูร์กลับจีน และแผ่นดินไหวที่เมียนมา ซึ่งกระทบความเชื่อมั่นและความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ระบุว่า แม้ว่าสหรัฐฯจะประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้เต็มรูปแบบออกไปอีก 90 วัน แต่ก็จะไม่ช่วยให้ธุรกิจไทยรอดพ้นจากมรสุมทางเศรษฐกิจที่กำลังจะตามมาได้
- ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า การชะลอภาษีตอบโต้ของทรัมป์ออกไป 90 วัน แต่ความเสี่ยงก็ยังคงอยู่ ประเมินว่าจะส่งผลกระทบทำให้ GDP ปีนี้โตลดลงกว่า 1% เหลือไม่ถึง 2%

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยตลาดถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกอบกับยังคาบเกี่ยวกับช่วงวันหยุดยาว มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,120-1,140 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : ANAN ORI NOBLE ITD TIPH TVH
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

JPARK  ("ซื้อ" ราคาเหมาะสม 5.85 บาท)
"เริ่มเห็น U-Rate ฟื้นตัวดีขึ้น"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

•ผลประกอบการ 4Q24 มีรายได้รวมเท่ากับ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +15%QoQ จากธุรกิจการให้บริการที่จอดรถ (PS) ที่เป็นสัดส่วน 70% ของรายได้ เติบโตตามพื้นที่ให้บริการที่จอดรถเพิ่มขึ้น และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากลานจอดรถในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น บริเวณถนนบรรทัดทอง ตลาดสวนหลวง-สามย่าน แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนรายได้ยังลดลง -7%YoY โดยมีผลมาจากรายได้จากธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (CIPS) เนื่องจากงานโครงการรถไฟฟ้า Smart Parking Management System และ Guidance System ที่บริษัทได้รับสัญญาจ้างมาในช่วงกลางปี 23 ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตาม Percentage of Completion (ส่วนท้ายของ S-Curve) สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 29% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 22% และ 23%ใน 4Q66 จาก Margin ของงาน PS ที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีกำไร 4Q24 เท่ากับ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +47%QoQ และ +7%YoY โดยกำไรปกติทั้งปี 24 อยู่ที่ 89 ล้านบาท +11%YoY ใกล้เคียงประมาณการของเรา

ความเห็น : คาดผลประกอบการ 1Q25 มีโอกาสเติบโต QoQ และ YoY เนื่องจากจะเริ่มมีการรับรู้รายได้โครงการอาคารที่จอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์อีกกว่า 1 พันตารางเมตร ประกอบกับธุรกิจ PS เริ่มเห็น U-Rate ที่ฟื้นตัวดีขึ้น เราประมาณการรายได้ปี 25 ราว 619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +23%YoY โดยมีแรงหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการพระนั่งเกล้าเต็มปีเป็นครั้งแรก และธุรกิจ PS มี 1 โครงการใหม่ ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วง 1H25 ทั้งนี้เราคาดกาไรปกติปี 25 เท่ากับ 98 ล้านบาท เติบโต +9.9%YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี เท่ากับ 5.85 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) ADVICE (ราคาเหมาะสม 6.50 บาท) แย้มผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ยอดขายเติบโตใกล้เคียงเป้าหมาย 13% YoY มั่นใจผลงานทั้งปี 2568 เพิ่มขึ้น 20% จากการขยายสาขาได้รวดเร็วขึ้น แต่ยังมีปัจจัยกดดัน จากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน ขณะที่สินค้า Apple รุ่นเก่าจะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น และมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้อยู่แล้ว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SNNP (Bloomberg consensus 14.30 บาท) ได้ฤกษ์เข้าเทรดดัชนี SET100 วันนี้ (16 เม.ย.68) สะท้อนความแข็งแกร่งธุรกิจ ผู้บริหาร "วิโรจน์ วชิรเดชกุล" ส่งซิกเตรียมโดดรับอากาศร้อนดันสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มฮอต หนุน Q2/2568 ฟอร์มสวย พร้อมย้ำเป้าทั้งปี 2568 รายได้โต 15% จากปีก่อน เดินหน้ารุกทำตลาดลูกค้าใหม่-เสิร์ฟโปรดักต์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FPI (Bloomberg consensus - บาท)ฉายทิศทางตลาดอินเดียโตต่อ เตรียมรับออเดอร์ล็อตใหม่เดือนหน้า ชี้ต้นทุนถูกลงหนุนกำไรฟื้น รับข่าวดีรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย หนุนเงินลงทุน 30% เริ่มก่อสร้างโรงงานสิงหาคมนี้ พร้อมรับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA (ราคาเหมาะสม 89.00 บาท) มั่นใจด้วยฐานการผลิตที่หลากหลายจะช่วยรับมือความเสี่ยงจากมาตรการ Reciprocal Tariff ได้บ้าง และยังคงปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ส่าหรับดาต้าเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์จัดการพลังงานขั้นสูง ย้ำเป้าผลงานปีนี้เติบโต Double Digit (ที่มา ทันหุ้น)