วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ยังขาดปัจจัยใหม่

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงซื้อหนุนจากหุ้น DELTA หลังประกาศ ผลประกอบการ 1Q68 สูงกว่าตลาดคาดการณ์ ตามด้วยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจากัด ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการประกาศ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,159.53 จุด +0.53 จุด +0.05% มูลค่าการซื้อขาย 28,459.22 ลบ. Program Trading -1,669.43 ลบ. ต่างชาติ -1,069.58 ลบ. TFEX +9,799 สัญญา ตราสารหนี้ -11,397.21 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 114.09 จุด หรือ +0.28% ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน ในขณะที่นักลงทุนรอดูความคืบหน้า ในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ
+ ก.ล.ต. เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ หรือ ไทยอีเอสจี เอ็กซ์ รวม 37 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 19 แห่ง คาดว่าจะเสนอขายและรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) พร้อมกันในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ได้ตามแผน จากปัจจุบันที่มี กองทุนแอลทีเอฟ 80 กอง จาก บลจ. 20 แห่ง และมีผู้ลงทุนรวมประมาณ 4-5 แสนราย
+/- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.1% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ค.
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 97 เซนต์ หรือ -1.54% ปิดที่ 62.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการ ใช้น้ำมัน
- กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้มีการหารือกัน ทางโทรศัพท์เมื่อเร็ว ๆ นี้
- ผลสำรวจล่าสุดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่กำลังเข้าใกล้วันครบ 100 วันของการดำรงตำแหน่งในสมัยที่สอง พบว่าคะแนนนิยมตกลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกันในรอบ 80 ปี
- สเปนและโปรตุเกสประสบปัญหาไฟดับเป็นวงกว้างเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) และส่งผลกระทบต่อการขนส่งในภาคสาธารณะ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่เที่ยวบินได้ถูกเลื่อนออกไป
- ช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ ธปท. จะออกประกาศเพื่อกำหนดมาตรฐาน ให้ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจบริการชำระเงินที่ได้รับใบอนุญาต ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 หากละเลยต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายของลูกค้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนียังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด นักลงทุนยังรอดูความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,150-1,170 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG
• หุ้นที่ธปท.กำลังพิจารณาอนุมัติให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank : KTB ADVANC GULF OR SCB
หุ้นรายงานพิเศษ
OSP "ถือ" Bloomberg consensus 17.20 บาท
"คาดกำไร 1Q68 จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY"
•มีแนวโน้มที่จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งสำหรับ 1Q68 โดยคาดการณ์ว่าจะมีกำไร 1.1 พันล้านบาท (+85%QoQ และ +27%YoY) แม้ว่ารายได้รวมจะอ่อนตัว 4%YoY แต่เติบโต 8%QoQ สู่ 7 พันล้านบาท (ยอดขายในต่างประเทศจะเติบโต 20%YoY) แต่ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจาก 38.5% เป็น 40% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และการบริหารจัดการกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่คาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เป็นตัวเงินจะปรับตัวลงราว 50-100 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน สู่ 1.70-1.75 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายการพิเศษจากการขายโรงงานผลิตแก้วที่พม่า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีกำไรพิเศษเข้ามาเพิ่มเติมราว 200 ล้านบาท
•ผลิตภัณฑ์ M150 ฝาเหลืองราคา 10 บาทที่ออกสู่ตลาดช่วงเดือน ก.พ. 68 เป็นปัจจัยหนุนให้ MKT Share ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ เดือน ธ.ค. 67 - มี.ค. 68 ติดต่อกัน 4 เดือนสู่ 44.9% เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือน ธ.ค. 67 โดยการกระจายตัวของ M150 ฝาเหลืองครอบคลุมพื้นที่จำหน่ายแล้ว 85% และเห็นการซื้อซ้ำราว 40% โดยบริษัทยังมองว่ายอดขายของ M150 ฝาเหลืองจะเติบโตต่อเนื่องและช่วยหนุนให้ MKT Share กลับมาสู่ระดับ 50%
•ความเห็น: เราคงคำแนะนำ “ถือ” เราคาดว่าผลประกอบการ 1Q68 จะปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่า GPM อ่อนตัวลงใน 2Q68 เนื่องจากการกระจาย M150 ฝาเหลืองสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และธุรกิจในต่างประเทศอาจไม่ได้เติบโตสูงเท่า 1Q68 อีกทั้งไม่มีกำไรจาก การขายสินทรัพย์จึงทำให้ผลประกอบการ 2Q68 มีแนวโน้มอ่อนตัว QoQ
หุ้นมีข่าว
(+) JR (Bloomberg consensus - บาท) แย้มผลงานปีนี้พุ่ง ชูไตรมาส 2 ผลงานจะเติบโตก้าวกระโดด งานรับรู้รายได้แตะ 500-600 ล้านบาท ขณะที่มาร์จิ้นจะเด่นตามการรับงานที่เพิ่มขึ้น กดต้นทุนลง การเงินแกร่งหนี้สินมีดอกเบี้ยต่ำเข้าตาแบงก์ ขณะที่เทรดดิ้งมาแรง เตรียมขายกลีเซอรีนให้จีน 200 ตัน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเทรดดิ้ง 20-30% รวมถึงหาพันธมิตรในกลุ่ม Oil & Gas เพิ่มความหลากหลายธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) FM (Bloomberg consensus 7.20 บาท) เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนปี 2568 เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก-ขยายกำลังการผลิต-บุกตลาดใหม่ หนุนรายได้เติบโต 12-15% New High ต่อเนื่อง และตั้งเป้าเป็นผู้นำตัวจริงด้านไก่ ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผลปี 2567 เป็นเงินสดอีก 0.20 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 0.35 บาทต่อหุ้น เตรียมรับเงิน 20 พฤษภาคม 2568 ตอกย้ำผลการดำเนินงานโตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(-) EASTW (Bloomberg consensus - บาท) “อีสท์วอเตอร์” วิกฤติหนักต่อเนื่อง ล่าสุด “สุเทพ น้อยไพโรจน์” ประธานบอร์ดธรรมาภิบาลประกาศลาออก มีผลวันที่ 1 พ.ค.นี้ นับตั้งแต่ต้นปีบอร์ดทยอยออกมาแล้ว 4 ราย หวั่นส่งผลต่อแผนออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ค้างเติ่ง นำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ตามมา ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง “มะนิลา วอเตอร์” ฐานะการเงินย่ำแย่ ส่วนทุนติดลบ 2,481 ล้านบาท ปิดโอกาสที่จะเพิ่มทุน EASTW หากแผนออกหุ้นกู้ล่ม (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) SCGP (ราคาเหมาะสม 19.00 บาท) เดินหน้ากลยุทธ์ในตลาด Healthcare Supplies รุกขยายสู่การผลิตหลอดฉีดยาและเข็มฉีดยาในไทย โชว์ผสานความร่วมมือกับ Once Medical Company Limited (Once) นำความเชี่ยวชาญร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ คาดเริ่มผลิตสินค้าภายในม.ค. 69 จำหน่ายแก่สถานพยาบาลในไทยและผู้จัดจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ (ที่มา ข่าวหุ้น)