ย้อนราคา “ธีเธอร์” สเตเบิลคอยน์อิงเงิน “ดอลลาร์ “ ในช่วง ”บาทอ่อนค่า”

ย้อนราคา “ธีเธอร์” สเตเบิลคอยน์อิงเงิน “ดอลลาร์ “  ในช่วง ”บาทอ่อนค่า”

ย้อนราคา “ธีเธอร์” สเตเบิลคอยน์อิงเงิน “ดอลลาร์ “ ในช่วง ”บาทอ่อนค่า” มากสุดในรอบ16 ปี พุ่งแตะ 38 บาท ทำให้นักลงทุนสเตเบิลคอยน์ตั้งแต่ต้นปี 2565 ได้กำไร 13.73% ซึ่งธีเธอร์เป็นเหรียญคริปโทที่นักลงทุนไทยซื้อขายสะสมมากสุดเป็นอันดับ 1

ท่ามกลางตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ปรับตัวลดลงจากปัจจัยมหภาคที่เศรษฐกิจโลกจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและดำเนินมาตรการ QT ลดสภาพคล่องเงินดอลลาร์ในตลาด 

รวมทั้งส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทในประเทศไทย ที่อ่อนค่าต่อเนื่องและอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ16ปี พุ่งแตะ 38 บาทต่อ 1 ดอลลาร์

สำหรับตลาดคริปโทเคอรร์เรนซี่ หนึ่งสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า "สเตเบิลคอยน์" มีการอิงราคาดอลลาร์ โดย 1 เหรียญ= 1 ดอลลาร์ เช่นเหรียญ ธีเธอร์ Tether (USDC) ซึ่งเหรียญ ธีเธอร์ มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับ 3 ของตลาดคคิปโทตามดัชนีคอยน์มาเก็บแคป และเป็นเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่ครองมูลค่าตลอดเป็นอันดับที่ 1

โดยในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยมีราคาซื้อขายกันด้วย "สกุลเงินบาท" ทำให้ราคาเหรียญธีเธอร์เคลื่อนไหวตามอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด

ย้อนราคา “ธีเธอร์” สเตเบิลคอยน์อิงเงิน “ดอลลาร์ “  ในช่วง ”บาทอ่อนค่า”

หากย้อนราคาเหรียญธีเธอร์ตั้งแต่เดือนม.ค.2565 นักลงทุนไทยที่เข้าซื้อในช่วงราคา 33.49 บาท ตามราคาบนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจทัลบิทคับ ในช่วงที่เงิน "บาทแข็งค่า" และถือครองมาจนถึงปัจจุบันที่ "บาทอ่อนค่า" จะได้ประโยชน์หรือ มีกำไรเพิ่มขึ้น 13.73% 

รวมทั้งข้อมูลจาก สำนักงานก.ล.ต.รายงานว่า เหรียญ "ธีเธอร์" มีมูลค่าการซื้อขายสะสมเป็นอันดับที่ 1 ในประเทศไทยมากกว่า "บิตคอยน์" คิดเป็น16.34% อยู่ที่ 1.47 แสนล้านบาท