‘มาสเตอร์การ์ด’ ชูการเงินยั่งยืน ปั้นโซลูชัน‘คริปโทฯ - เมตาเวิร์ส’
เทคโนโลยีทางการเงินที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการ และธุรกิจที่อยู่ในตลาดการเงินจะต้องปรับตัวตามกระแสโลก “มาสเตอร์การ์ด” หนึ่งในผู้เล่นยักษ์ใหญ่ในตลาด และร่วมเป็นหนึ่งในผู้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเงินในตลาด เปิดประตูเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลเช่นกัน
ยุนซก จาง รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาการตลาดและขยายธุรกิจ เอเชีย-แปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าวในงาน BOT Digital Finance Conference 2022 ภายใต้หัวข้อ “Are We Ready for Payments of theFuture ?” ว่า ความยั่งยืนทางการเงิน เป็นโจทย์สำคัญที่ตลาดการเงินต้องเรียนรู้และพัฒนา ซึ่งมาสเตอร์การ์ดได้เห็นวิวัฒนาการทางการเงินในโลกนี้ตั้งแต่มาสเตอร์การ์ดเริ่มเข้าสู่ตลาดตลอดระยะเวลา 60 ปี
โดยการชำระเงินในประเทศไทยในรูปแบบ “ดิจิทัลเพย์เมนต์” การชำระเงินแบบเรียลไทม์ในประเทศไทยที่มีความเข้มแข็ง สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระบบการเงินได้อย่างชาญฉลาด ทำให้สามารถได้ประโยชน์จากโลกอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งทำให้การถ่ายโอน P2P ราบรื่น
รวมทั้ง CBDC หรือดิจิทัลบาท สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น่าสนใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ พร้อมกับยกระดับเทคโนโลยี และยอมรับการพัฒนาใหม่ ๆ เช่น การชำระเงินดิจิทัลที่เป็นเรื่องที่ถูกจับตามองในตอนนี้ การร่วมมือกับธนาคารเป็นหนทางที่ดี เช่น ธนาคารกลางในบาฮามาสขณะนี้ ที่เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า sand dollar ซึ่งมาสเตอร์การ์ดทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงการชำระเงินระหว่างลูกค้ารายย่อย และผู้ประกอบธุรกิจ
การพัฒนาเหล่านี้ทำให้รู้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลง และกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป มาสเตอร์การ์ดจึงต้องปรับตัว และหาวิธีเพิ่มมูลค่า ต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ที่จะต้องมีความปลอดภัยด้วย
พร้อมกับแนะนำการลงทุนในยุคดิจิทัลแอสเสท 6 ข้อ 1.เก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า 2.เปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอด 3.เข้าใจการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับ 4.ทำความเข้าใจคู่แข่งและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล 5.ค้นหาสิ่งที่คุณถนัด และวิธีที่คุณจะสามารถประสบความสำเร็จ และ 6.มีความเข้าใจด้านคณิตศาสตร์ที่เข้มข้น
สร้างโซลูชันการเงิน‘คริปโทฯ-เมตาเวิร์ส’
พิรุฬห์ โรจนกมลสันต์ รองประธานฝ่ายลูกค้าสถาบันการเงิน มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) เปิดเผยกับทาง “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า มาสเตอร์การ์ดต้องการขับเคลื่อนการเงินในประเทศไทยภายใต้ “Step into the next Economy” โดยการนำโซลูชันด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชื่อว่า “Crypto source crypto as a service” ให้บริการในรูปแบบคอนเซาท์ ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาและเทคโนโลยีเฉพาะด้าน
โซลูชันสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับธนาคาร สถาบันการเงิน หรือผู้ที่สนใจที่ต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีรูปแบบต่างๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ที่มีความสนใจสามารถเข้ามาเล่นในตลาดนี้ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
โดยมาสเตอร์การ์ดมีรูปแบบของธุรกิจในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีฉบับสมบูรณ์แล้ว เช่น แพลตฟอร์มคริปโทฯ ซึ่งบริษัทที่ต้องการเข้ามาในตลาดคริปโทฯ สามารถเลือกฟังก์ชัน และการใช้งานให้ตอบโจทย์ธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าได้ทันที ซึ่งบริการเป็นที่ ปรึกษามีการเปิดใช้ในสหรัฐแล้ว และมีลูกค้าเป็นกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจทัลที่อยู่ในตลาดคริปโทฯ ตอนนี้ ครั้งนี้ถือเป็นการโชว์เคสครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งมูลค่าในการดำเนินงานแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของโปรเจกต์
รวมทั้งมีเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่ว่าการทำธุรกรรมในคริปโทฯ มีความปลอดภัย จากการเข้าซื้อบริษัท CipherTrace Armada ในสหรัฐช่วยให้ธนาคาร ผู้ให้บริการชำระเงิน และหน่วยงานกำกับดูแลเปิดเผยธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเพื่อควบคุมความเสี่ยง และการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ Crypto source ในประเทศไทยคือ ธนาคารกลาง ธนาคาร หรือบุคลที่สนใจ จากตอนนี้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ และสถาบันการเงินหลายๆ แห่งอยากเข้ามาในตลาดนี้ และต้องการสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงการพัฒนา“เมตาเวิร์ส”เพื่อรองรับโลกเสมือนในอนาคต แม้ว่าการพัฒนาเมตาเวิร์สของมาสเตอร์การ์ดจะยังอยู่ในการพัฒนาขั้นพื้นฐาน แต่เชื่อว่าระบบ และอีโคซิสเต็มที่แข็งแรง จะสามารถทำให้เวิร์สในอนาคตของมาสเตอร์การ์ดเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ โดยลูกค้าของมาสเตอร์การ์ดสามารถซื้อสินค้า และบริการผ่านเมตาเวิร์สได้ทันที พร้อมทั้งเชื่อมต่อโลกการเงินดั้งเดิมเข้าสู่การเงินดิจิทัลได้ทันที ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างเจรจากับพาร์ทเนอร์ และร้านค้าต่างๆ ในการนำสินค้าเข้ามาวางขายในเมตาเวิร์สนี้
มาสเตอร์การ์ดพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทย ไปสู่การปฏิวัติในภาคการเงินดิจิทัล แสดงให้เห็นถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตั้งแต่ระบบหน้าบ้านไปจนถึงระบบเทคโนโลยีหลังบ้าน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ ขับเคลื่อนประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบไร้เงินสด รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทย เป็นฐานกำลังทางเศรษฐกิจ และการเงินที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล และระบบการชำระเงินแห่งอนาคตให้เกิดความสะดวก เชื่อถือได้ และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคทุกคน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์