เผาหรือฝัง? โทเคนดิจิทัลตายแล้วไปไหน?

เผาหรือฝัง? โทเคนดิจิทัลตายแล้วไปไหน?

ปกติเวลาที่คนเราตาย เรามักเผาหรือฝังร่างของเรา เหรียญโทเคนดิจิทัลก็เช่นกัน เราสามารถเผาหรือฝังได้ แล้วมันคืออะไร? ต่างกันยังไง? หายไปตลอดกาลเลยไหม?

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า Burn Token (เผาเหรียญ) หรือการทำลายโทเคนทิ้งกันมาบ้างแล้ว ซึ่งผู้ที่จะทำการ Burn Token ได้ส่วนมากเป็นนักพัฒนา (Developer) ของเหรียญนั้นๆ แต่รู้หรือไม่ว่าคนทั่วไปอย่างเราๆ เองก็สามารถทำลายโทเคนที่เราไม่ต้องการด้วยการฝังโทเคนดิจิทัล ให้หายไปจากโลกนี้ได้เช่นกัน โดยการโอนโทเคนนั้นๆ ไปที่ Dead Address ซึ่งเป็น Address ที่ตกลงกันว่าทุกโทเคนในนี้ จะไม่มีใครสามารถนำออกมาใช้งานได้อีก เพราะไม่มีใครที่เป็นเจ้าของ และมีคีย์ของแอดเดรสนี่เอง อาจกล่าวได้ว่า ถ้าเราต้องการทำลายโทเคน เราก็เพียงแค่โอนเหรียญไปยัง Dead Address ได้เหมือนกัน

แล้ว Dead Address คืออะไร? ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?

Dead Address คือ ที่อยู่ (Address) ของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จะไม่มีใครสามารถนำเหรียญกลับมาใช้งานได้อีก เพราะไม่มีใครสามารถถอนเหรียญออกมาได้ โดยส่วนมากมักนิยมใช้จำแนกเหรียญที่ต้องการทำลายทิ้ง (Burn) แต่ยังคงแสดงถึงความโปร่งใส ให้ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่ามีเหรียญที่ถูกโอนมาในกระเป๋าเงินนี้จำนวนเท่าไร

ในทางกลับกัน เมื่อเราต้องการโอนเหรียญ Cryptocurrency ให้แก่ผู้อื่น เรามักจะขอ Address หรือ QR Code ที่ถูก Generate จาก Wallet Address นั้นๆ เปรียบเสมือนเราต้องการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ถ้าเราใส่ Address ผิดเพียงแค่ตัวเดียว หรือใส่เลขบัญชีผิดเพียงแค่ 1 หลัก เงินของเราก็ไม่สามารถโอนไปให้ผู้รับได้ อาจเป็นเหตุให้เหรียญ (เงิน) ของเราถูกโอนไปยัง Dead Address หรือบัญชีของผู้อื่นได้

นางสาวฟรานเชสก้า รุสโซ่ ผู้ก่อตั้ง Crypto Meetup Thailand คอมมูนิตี้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการโอนเหรียญให้แก่ผู้อื่น เนื่องจากเหรียญ Cryptocurrency ทำงานอยู่บนบล็อกเชน ในขณะที่มีความปลอดภัยมากที่สุด โปร่งใสมากที่สุด แต่ก็เต็มไปด้วยข้อระวังในการใช้งานมากมาย ในโลก Decentralized หากการโอนเหรียญผิดพลาด ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเรียกร้องเหรียญของตนกลับมาได้เลย ดังนั้น ผู้ใช้งานควรระมัดระวังอย่างมากในการโอนเหรียญให้ผู้อื่น ก่อนโอนเหรียญทุกครั้งควรตรวจสอบ Address ให้ถูกต้องว่าเป็น Address ของผู้รับโอนจริง โดยเฉพาะเวลาที่ Copy Address ควร Recheck ทุกครั้งว่าโอนเหรียญถูก Chain เพราะ 1 Wallet สามารถมีได้หลาย Address แตกต่างตามบล็อกเชนที่ใช้งาน  
 
ในทางกลับกัน Dead Address ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ “การสร้างที่อยู่กระเป๋าบิตคอยน์” (Bitcoin Vanity Gen) ที่เราได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ เพราะการสร้างที่อยู่ของ Wallet เราไม่สามารถเลือกชื่อหรือว่าตัวอักษรที่ต้องการได้เลย และด้วยเหตุนี้เอง หากเราโอนเหรียญ และใส่ Address ผิดเพียงแค่ตัวเดียว ก็เท่ากับว่าเรากำลังโอนเหรียญไป Dead Address โดยที่เราไม่รู้ตัว!!

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์