‘3 สไตล์’ ลงทุนคริปโท การ์ดป้องกันความผันผวน
ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin : BTC) ดูเหมือนว่า จะพุ่งขึ้นแรงในช่วงบ่ายวานนี้ (15 ก.พ.) โดยทำจุดสูงสุดของวันที่ 22,319 ดอลลาร์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ (14 ก.พ.) ราคาเพิ่งจะร่วงลงไปแตะ 21,351 ดอลลาร์ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ CPI สูงเกินคาด
อย่างไรก็ดีแม้ว่า ในปีนี้เราจะได้เห็นการฟื้นตัวของราคาบิตคอยน์ไปมากแล้ว แต่ก็ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในปี 2564 ที่ ระดับราคา 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งในปี 2565 ราคาร่วงลงมาจุดต่ำสุดที่ระดับ 15,500 ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว สะท้อนได้ชัดเจนว่า “คริปโทเคอร์เรนซี” มีความสามารถในการสร้างกำไรที่รุนแรง และ รวดเร็ว แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การก้าวเข้ามาลงทุนหรือปรับเปลี่ยนสไตล์ในตลาดคริปโท หลังจากผ่านศึกกันมาแล้ว นอกจากต้องไม่ประมาท ไม่ตามกระแส ยังควรต้องมีสติทุกครั้ง พร้อมกับติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะการลงทุนอย่างมีแบบแผนจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้อย่างดียิ่งขึ้น
“ปภัสส์ชนันท์ อังค์วราวัฒน์” ซีอีโอ เทคโทโร (TECHTORO) สื่อกลางให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการเงินและการลงทุนทั่วไป ให้สัมภาษณ์ กับ กรุงเทพธุรกิจ ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง คริปโทเคอร์เรนซี เช่นนี้ จริงๆ แล้วสามารถแบ่งออกง่ายๆ เป็น 3 รูปแบบ
เริ่มจาก แบบแรก "DCA" (Dollar-Cost Averaging) หรือ ถัวเฉลี่ยต้นทุน คือ การลงทุนระยะยาวรูปแบบหนึ่ง โดยเป็นการลงทุนแบบสม่ำเสมอด้วยเงินทุนที่เท่า ๆ กันทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าสินทรัพย์ที่ซื้อตอนนั้นจะมีราคาเท่าไร เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าสินทรัพย์ นับว่า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เริ่มต้นลงทุน หรือผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าดูสถานการณ์ และ ราคาเหรียญในแต่ละวัน
เช่น นักลงทุน A อาจตั้งเป้าหมายในการซื้อ Bitcoin (BTC) เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ในวันที่ 16 ของทุกๆ เดือน เพื่อซื้อเหรียญสะสมไปเรื่อย ๆ โดยท้ายที่สุดนักลงทุน A จะได้ต้นทุนในราคาค่าเฉลี่ยไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป หรือนักลงทุนอาจเลือก DCA ตามการขยับของราคา เช่น ซื้อ Bitcoin (BTC) เมื่อราคาขึ้นหรือลง 10%
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถกำหนดได้เองว่าจะลงทุนเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี ไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นรายเดือนเสมอไป อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของการลงทุนแบบ DCA ก็คือ "วินัยในการลงทุน" นักลงทุนจะต้องทำตามเงื่อนไขที่ตัวเองตั้งขึ้นมาอย่างเคร่งครัด
โดยการ DCA ในคริปโท อาจต้องพิจารณาถึง มุมมองการลงทุนในระยะยาวต่อเหรียญนั้น ๆ ด้วย หากเราเลือกเหรียญที่มีแนวโน้มของราคาอยู่ในขาขึ้น ก็จะมีโอกาสขาดทุนมีน้อยกว่าเหรียญที่มีแนวโน้มเป็นขาลง
ส่วนแบบที่สอง “Day Trading” ซื้อขายรายวัน คือ การซื้อและขายทำกำไรภายในวันเดียว โดยอาจจะเข้าซื้อและถือเป็นหลักนาทีหรือชั่วโมง แต่จะไม่ถือข้ามวัน
นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้มักซื้อขายเป็นจำนวนหลาย ๆ รอบภายในหนึ่งวัน ตามแนวคิดเข้าไว ออกเร็ว โดยกลยุทธ์การเทรดแบบนี้จะรอขายทำกำไรในช่วงที่ตลาดคึกคักที่สุด
สำหรับประเทศไทยก็คือช่วงตี 2-3 เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติฝั่งอเมริกา และ ยุโรปมีการซื้อขายหนาแน่น
โดยส่วนใหญ่นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้จะมีเวลาว่างให้กับการเทรดหลายชั่วโมงต่อวัน เพื่อเฝ้าดูทิศทางของราคา และ สามารถวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้
“ปภัสส์ชนันท์" ย้ำว่า การลงทุนแบบ Day Trade ในตลาดคริปโทนั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะความผันผวนที่สูงมาก แต่ด้วยความผันผวนนี้เอง ก็อาจทำให้เกิดส่วนต่างของราคาทำให้นักเทรดรายวันสามารถสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำในระยะเวลาอันสั้น
"มองว่า จริงๆ แล้ว การซื้อขายให้จบในรายวัน เราจะได้ส่วนต่างราคาประมาณหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถรับกำไรได้อยากเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะได้ เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะยาว"
สุดท้าย แบบที่สาม “กองทุนคริปโท” ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ มาให้บริการคำแนะนำการลงทุน เลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม และยังมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้ ตอบโจทย์นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในด้านต่างๆ เหมาะกับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่า ช่วยปิดความเสี่ยงความผันผวนในตลาดคริปโทได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมานี้ “คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” จับมือร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ “บล.อินโนเวสท์ เอกซ์” ลงนามความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานโดย “เมอร์เคิล แคปปิตอล” และ “คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่”
มีเป้าหมายหลักในการร่วมผลักดัน และ พัฒนาบริการสินทรัพย์ดิจิทัลให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2566 นี้ ทั้งนี้ InnovestX ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล และ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้บริการบน InnovestX Super App แพลตฟอร์มให้บริการการลงทุนครบวงจร ซึ่ง คริปโตมายด์ กรุ๊ป และ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มีแผนจะเปิดให้บริการภายในปี 2566
"แท้จริงแล้วการลงทุนในโลกคริปโท สามารถเริ่มต้นได้หลากหลายรูปแบบ สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ตัวเราเป็นนักลงทุนสไตล์ไหน เชี่ยวชาญด้านอ่านกราฟ หรือประเมินเทรนด์ มีวินัยในการลงทุนหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้แนะว่าเราเหมาะกับการลงทุนประเภทใด โลก คริปโทในปัจจุบันเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็ว ด้วยนวัตกรรมที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นพื้นฐานขับเคลื่อนหลัก ทำให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาให้นักลงทุนได้ทดลองใช้ แต่การลงทุนในโลกคริปโท จำเป็นต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจขั้นสูงเช่นกัน"
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน และ การลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน