"ซิลิคอนวัลเลย์" ครองทรัพย์สินบริษัท "คริปโท-VC" กว่า 6 พันล้านดอลลาร์

เว็บไซต์ cointelegraph.com รายงานหลังจากการล่มสลายของ ซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของสหรัฐ  พบว่าธนาคารซึ่งถูกเลิกกิจการไปแล้ว ถือครองสินทรัพย์ของบริษัทและนักลงทุนร่วมทุน หรือเหล่า VC ในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่รายใหญ่ในตลาดมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์

โดยถือครองสินทรัพย์จาก อันเดรสเซ่น โฮโรวิตซ์ (Andreessen Horowitz) หรือ a16z เป็นบริษัทลงทุน VC จำนวนก 2.85 พันล้านดอลลาร์, 1.72 พันล้านดอลลาร์จาก Paradigm บริษัทด้านการลงทุน Web3 และ 5.6 ร้อยล้านดอลลาร์จาก Pantera Capital บริษัทที่ลงทุนในเทคโนโลยี

ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้เข้าไปลงทุนในโปรเจกต์เกี่ยวกับเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ Web3 ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่มากมาย ปัจจุบัน A16z ถือครองการลงทุนในโครงการต่าง ๆ เช่น Alchemy, Sky Mavis และ Yuga Labs โปรเจกต์ NFT และก่อนหน้านี้เป็นผู้ลงทุนใน Coinbase แพลตฟอร์มคริปโทรายใหญ่

ขณะที่ Paradigm ได้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ รวมทั้งแพลตฟอร์ม DeFi อย่างเช่น Compound รวมทั้งเครือข่ายบล็อกเชน Cosmos และ Uniswap แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี (Decentralized Exchange : DEX) ทางด้าน Pantera Capital ถือหุ้นในโครงการต่างๆ เช่น 1inch, Ankr และ Zcash

รวมถึง Circle Internet Financial ผู้ออกเหรียญ USDC ที่ออกมายอมรับว่า มีเงินสำรองกว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ จากทั้งหมด 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ยังคงฝากไว้กับ SVB  แม้ในตอนแรกปฎเสธที่จะให้ข้อมูลตัวเลข ทำให้เหรียญสเตเบิลคอยน์ USDC หลุด Peg จากการตรึงราคาดอลลาร์ทันที และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 0.88 ดอลลาร์ ต่อ 1 เหรียญ

รายงานที่รวบรวมโดย Castle Hall Due Diligence และดึงมาจากเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเปิดเผยข้อมูลสินทรัพย์ของ VCs ที่ถูกควบคุมโดย SVB  เช่น การถอน การฝาก หรือการโอนล่าสุดหลังจากเวลาที่เปิดเผย 

นอกจากนี้ ในขณะที่บริษัทดังกล่าวเป็นนักลงทุนที่โดดเด่นในตลาดคริปโท แต่สินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือโดย SVB ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการลงทุนคริปโท