‘BRC-20’ Blockchain ใหม่ ที่น่าจับตามอง
“BRC-20” Token นับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นบน Bitcoin Blockchain ช่วงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา กระแสการลงทุนในเหรียญกลุ่ม Meme coin ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
จากการเปิดตัวของ Token มาตรฐานใหม่ชื่อว่า “BRC-20” ที่ทำให้ Meme Coin ถูกสร้างและใช้งานบน Bitcoin Blockchain ได้
ด้วยเหตุนี้ BRC-20 จึงทำให้เกิดธุรกรรมบน Bitcoin Blockchain เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ค่าธุรกรรมต่อวัน มีราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ และยังส่งผลให้ Binance ประกาศยุติการถอน BTC บน Bitcoin Blockchain ถึง 2 ครั้งภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง ซึ่งในปัจจุบันมี Meme Coin ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกว่า 14,000 โทเคน ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน BRC-20 และมี Market Cap รวมกว่า 860 ล้านดอลลาร์
Meme Coin และจุดเริ่มต้นของเทรนด์
วรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิลแคปปิตอล จำกัด ให้ความเห็นถึงกระแส Meme Coin และ ทำความรู้จัก BRC-20 Token ก่อนจะลงทุนในเทรนด์นี้ ว่า Meme Coin หรือเหรียญมีม เป็นเหรียญที่ได้รับแรงบัลดาลใจจาก Meme (กระแสหรือเรื่องตลกที่ถูกส่งต่อกันบนโลกออนไลน์) ซึ่งประโยชน์ของเหรียญกลุ่มนี้ไม่ชัดเจน มักขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้สร้าง ซึ่ง Meme Coin ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Dogecoin ที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี2556
กระแส Meme Coin กลับมาอีกครั้ง จากการเติบโตอย่างรุนแรงของราคาเหรียญ PEPE ที่ถูกสร้างขึ้นช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยราคาของเหรียญ PEPE นั้นเติบโตกว่า 5,000,000% หรือ 5,000 เท่า ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น
ส่วนหนึ่งที่เหรียญ PEPE เติบโตอย่างรุนแรงเป็นเพราะ เหรียญนี้ถูกสร้างบนมาตรฐานใหม่อย่าง BRC-20 ซึ่งทำให้นักลงทุนหันมาสนใจทั้ง PEPE และ BRC-20 Token เป็นจำนวนมาก จนเกิดเทรนด์ของ Meme Coin และ BRC-20 ขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ทำความรู้จัก BRC-20 Token ก่อนจะลงทุนในเทรนด์นี้
BRC-20 ถูกคิดค้นในเดือนเม.ย.ปี 2566 โดยนักพัฒนานามแฝง Domo ผ่านโปรโตคอล Ordinals ซึ่งทำให้เหล่านักพัฒนาและโปรแกรมเมอร์สามารถสร้าง และโอนย้ายเหรียญบน Bitcoin Blockchainได้ ซึ่งเหรียญบนพื้นฐาน BRC-20 ของ Bitcoin Blockchain มีรูปแบบที่คล้ายกับเหรียญพื้นฐาน ERC-20 ของ Ethereum Blockchain แต่ต่างกันที่เหรียญบน BRC-20 นั้นไม่รองรับการใช้ Smart Contract
มานะ คานิโยว หัวหน้าฝ่ายบริหารงานขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัท เมอร์เคิลแคปปิตอล จำกัด (Merkle Capital) ให้ความเห็นเสริมว่า จากกระแส Meme Coin ที่ร้อนแรง จนค่าธุรกรรมบน Bitcoin Blockchain สูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ Merkle Capital จึงขอแนะนำประเด็นที่ควรจับตามองดังนี้
1. กระแส BRC-20 อย่างที่ทราบกันดีว่า Meme Coin อยู่คู่กับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2556 และเห็นได้ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาว่า ยังมีนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับเหรียญกลุ่มนี้อยู่ หากกระแส BRC-20 ร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง จะทำให้ค่าธุรกรรมบน Bitcoin Blockchain เพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต
การที่ BRC-20 มี Blocksize Limit ที่ 1 Megabyte ซึ่งไม่เพียงพอ ต่อการทำปริมาณธุรกรรมจำนวนมาก ทำให้ค่าธรรมเนียมพุ่งสูงขึ้นถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งปัญหานี้นักลงทุนไม่สามารถแก้ไขได้โดยตรง เนื่องจากการแก้ไขจะต้องแก้ไขที่ Bitcoin Blockchain หรือย้ายเหรียญกลุ่ม BRC-20 ไปอยู่บน Lightning Network ที่เป็น Layer-2 ของ Bitcoin Blockchain เพื่อขยายสภาพคล่องในการทำธุรกรรม
ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาคือ ความเสี่ยงในกรณีที่กระแส BRC-20 หายไป และการไม่ปรับพื้นฐานของ BRC-20 ให้อยู่นอกเหนือจาก Bitcoin Blockchain ซึ่งจะทำให้ปัญหาเดิมกลับมาอีกครั้ง และส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ Bitcoin Ecosystem ในอนาคต
2. กระแสการใช้งาน Bitcoin Blockchain แม้เทรนด์ของ BRC-20 จะลดลง แต่หากในอนาคตเกิดเทรนด์ในการสร้าง หรือโอนย้าย Token บน Bitcoin Blockchain อีกครั้ง เช่นกระแสของ NFT หรือเหรียญใหม่ๆ อาจทำให้ปัญหาค่าธุรกรรมบน Bitcoin Blockchain สูงขึ้นอีกครั้ง
3. ปัญหาที่เกิดจาก Binance ซึ่ง Binance เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีอันอับหนึ่งของโลก การที่ Binance ประกาศยุติการถอน BTC นั้น ส่งผลต่อราคาอย่างมาก แม้สุดท้าย Binance จะมีแนวทางในการพัฒนาระบบให้ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Lightning Network เพื่อลดปัญหาการทำธุรกรรมและเริ่มดำเนินการแล้ว แต่ยังต้องติดตามว่าจะสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ หรือหากมีปัญหาเกิดขึ้นจากการใช้งาน Binance จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
ประเด็นทั้ง 3 ที่กล่าวข้างต้นถือเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ Bitcoin Ecosystem และตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน
แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่ยังส่งผลกระทบได้ เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ดังนั้น จากทั้งกระแสของ Meme Coin ทำให้เห็นว่ามีนักลงทุนสนใจคริปโทเคอร์เรนซีเป็นจำนวนมาก และภาพรวมเงินเฟ้อที่ดูดีขึ้นมีโอกาสทำให้ BTC ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงราคา 26,000-32,000 ดอลลาร์ ในระยะสั้นถึงกลาง ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนและจัดการความเสี่ยงของตนเองอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน