Merkle Capital เปิด 3 ปัจจัย หนุน 'บิตคอยน์' ดันแนวโน้มเติบโตสูง
Merkle Capital เปิด 3 ปัจจัย หนุน 'บิตคอยน์' ดันแนวโน้มเติบโตสูง จากแรงหนุน Bitcoin จากบริษัทการเงินระดับโลก และBitcoin มีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองเป็นแนวโน้มขาขึ้นและมีโอกาสผ่านแนวต้านที่ 31,000 ดอลลาร์เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 34,000 ดอลลาร์
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับคริปโทฯ จำนวนมาก โดยเฉพาะการยื่นขอจัดตั้ง Bitcoin Spot ETF (Exchange Traded Fund) จาก Blackrock ทำให้มูลค่าของ BTC ปรับตัวขึ้นสูงสุด 27% อย่างไรก็ตาม Merkle Capital เชื่อว่า Bitcoin ยังเป็นเทรนด์สินทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนกรกฏาคม 2566
นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยถึงเหตุผลสนับสนุนการเติบโตของ Bitcoin ดังนี้
1) แรงหนุน Bitcoin จากบริษัทการเงินระดับโลก
แม้การยื่นขอจัด Bitcoin Spot ETF ของ Blackrock จะยังไม่ได้รับการอนุมัติด้วยเหตุผลว่า "ไม่ชัดเจนและครอบคลุมเพียงพอ" แต่ก็เป็นสิ่งยืนยันถึงแนวโน้มการยอมรับของ Bitcoinได้เป็นอย่างดี เมื่อตรวจสอบ AUM (Asset Under Management) จะพบว่ากลุ่มบริษัทการเงินชั้นนำมี AUM หรือมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 27 ล้านล้านดอลลาร์
แต่มูลค่าตลาดของคริปโทฯ มีเพียง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น แม้ในอนาคต คริปโทฯ จะรับส่วนแบ่งจาก AUM กลุ่มนี้เพียง 5% แต่มูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นกว่า 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นเท่าตัว) ซึ่งเป็นโอกาสเติบโตของตลาดคริปโทฯ อย่างชัดเจน ดังนั้น หาก SEC สหรัฐอนุมัติการจัดตั้ง ETF สำเร็จ จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเติบโตของ Bitcoin และภาพรวมคริปโทฯ
2) มูลค่า Bitcoin ยังต่ำอยู่หากเทียบกับต้นทุนรายใหญ่
อ้างอิงจาก MVRV Ratio หรือ "Market Value by Realized Value" ซึ่งแสดงถึงมูลค่าตลาดเทียบกับมูลค่าจริงของ Bitcoin อีกนัยหนึ่งคือ Realized Value สามารถบอกถึงมูลค่าเฉลี่ยหรือต้นทุนของนักลงทุนรายใหญ่ได้
โดยปัจจุบัน MVRV Ratio ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 1.5 (หมายความว่าต้นทุนเฉลี่ย BTC ของรายใหญ่อยู่ที่ประมาณ 20,000 ดอลลาร์) เมื่อย้อนข้อมูลในอดีต MVRV Raito เคยขึ้นไปสูงถึง 4 แสดงให้เห็นว่ามูลค่า ณ ปัจจุบันและความเสี่ยงในการถือครอง BTC นั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
3) Bitcoin Dominance สูงขึ้นต่อเนื่องกดดันสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น
เมื่อพิจารณาถึง Bitcoin Dominance จะพบว่า Bitcoin มีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากผ่านแนวต้านสำคัญที่ 52% จะมีแนวโน้มในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่สูงมากยิ่งขึ้น ทำให้เดือนกรกฏาคมนั้น ภาพรวมของ Altcoin ยังคงโดนกดดันเมื่อเทียบกับ Bitcoin
จากภาพรวมข้างต้น ควรมีแผนการลงทุนอย่างไร?
นายมานะ คานิโยว หัวหน้าฝ่ายบริหารงานขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า
เดือนกรกฏาคม 2566 เทรนด์ Bitcoin ยังคงมีโอกาสเติบโตสูงซึ่งสอดคล้องกันกับข้อมูลของ Cryptomind Advisory ที่ได้มีการคาดการณ์กรอบราคาไว้ที่ 27,500 - 34,000 ดอลลาร์ เนื่องจากช่วงเดือน มิ.ย. BTC มีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากการรับข่าว BlackRock ยื่นขออนุมัติ Bitcoin SPOT ETF ทำให้มีโอกาสย่อตัวในระยะสั้นได้ แต่ในภาพรวมแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นและมีโอกาสผ่านแนวต้านที่ 31,000 ดอลลาร์เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 34,000 ดอลลาร์
หากนักลงทุนท่านใดต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการตัดสินใจ สามารถติดต่อได้ที่ Merkle Capital ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทย
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หากกังวลหรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือหาที่ปรึกษาการลงทุนที่มีความชำนาญเพื่อช่วยเหลือในการตัดสินใจ