Binance เอี่ยวธนาคารรัสเซียขึ้นแบล็กลิสต์ ท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐ
Binance เอี่ยวธนาคารรัสเซียขึ้นแบล็กลิสต์ ความเสี่ยงครั้งใหม่ท่ามกลางการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐ ทำให้ไบแนนซ์ต้องเคร่งครัดการใช้งานแบบ P2P ของชาวรัสเซียบนแพลตฟอร์มมากขึ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันไปถึงสถานการณ์ด้านกฎหมาย ที่กระทบต่อสถานะเว็บเทรดคริปโทอันดับ 1 ในสหรัฐ
Keypoint:
- ยักษ์ใหญ่ Binance เคลื่อนไหวต่อมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียฉบับใหม่
- มีผลบังคับใช้กับลูกค้าชาวรัสเซียที่ใช้บริการ P2P ของ Binance
- ออกกฎเคร่งครัด กังวลรัฐบาลสหรัฐคุมเข้ม
ตามรายงานของ เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม รายงานว่า ไบแนนซ์ (Binance) กระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐที่มีเส้นทางธุรกิจคาบเกี่ยวในรัสเซีย นั้นยังคงประมวลผลธุรกรรมให้กับผู้ให้กู้ชาว “รัสเซีย” อย่างน้อย 5 ราย ซึ่งถูกขึ้น “บัญชีดำ”โดยมหาอำนาจตะวันตกอย่างสหรัฐ
ตามรายงานเผยว่า ลูกค้าชาวรัสเซียของไบแนนซ์ (Binance) ยังสามารถทำการซื้อขายแบบ peer-to-peer (P2P) บนแพลตฟอร์มของไบแนนซ์ โดยหนึ่งในนั้นคือ Tinkoff Bank และ Rosbank ซึ่งใช้บริการเพื่อชำระเงิน
โดยรายงานดังกล่าวขัดแย้งกับคำแถลงของไบแนนซ์ เกี่ยวกับการดำเนินงานในประเทศที่ถูกคว่ำบาตร จากเมื่อปีที่แล้ว แพลตฟอร์มอ้างถึงการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวดต่อชาวรัสเซียที่มีสินทรัพย์เกิน 10,000 ยูโรบนแพลตฟอร์ม
ถอดรายชื่อ 2 ธนาคารรัสเซีย
ภายหลังจากสื่อได้นำเสนอข่าว แม้ว่าไบแนนซ์ไม่มีการโต้แย้งใดๆ แต่ได้ลบรายชื่อธนาคารในรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ Tinkoff Bank และ Rosbank ออกจากรายการผู้ให้บริการชำระเงินที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม P2P ของไบแนนซ์
ย้ำวิธีการใช้งาน 'รูเบิล-ดอลลาร์' ชัดเจน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ไบแนนซ์ได้ออกประกาศผ่านบัญชีภาษารัสเซียบนแพลตฟอร์ม Telegram ว่าผู้ใช้บริการของ Binance P2P ที่เป็นชาวรัสเซีย จะต้องไม่ใช้สกุลเงินอื่นนอกเหนือจากรูเบิลในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Binance P2P และผู้ใช้งาน Binance P2P ชาวรัสเซียที่พำนักอาศัยอยู่นอกประเทศ ก็จะต้องไม่ใช้สกุลเงินยูโร,ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงสกุลเงินฮริฟเนียของยูเครน ในการซื้อขายผ่านบริการ Binance P2P
นอกจากนี้ ไบแนนซ์ยังประกาศอีกว่า ผู้ที่จะใช้สกุลเงินรูเบิลในการซื้อขายบน Binance P2P จะต้องได้รับการยืนยันตัวตนว่ามีสัญชาติ และเป็นผู้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศรัสเซีย เนื้อหาส่วนหนึ่งในข่าวประกาศของ ไบแนนซ์มีใจความว่า “กราบขออภัยในความไม่สะดวก ในกรณีที่ท่านลูกค้ามีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Binance”
ส่วนทางฝั่งของผู้ใช้งาน ไบแนนซ์ หลายรายก็ออกมาให้ข้อมูลว่า มาตรการใหม่ที่ออกมานี้มุ่งเป้าผลกระทบไปยังชาวรัสเซียซึ่งอาศัยอยู่ในต่างประเทศที่ต้องการนำเงินรูเบิลในบัญชีธนาคารรัสเซียมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นผ่านบริการของ Binance P2P
ทั้งนี้ ไบแนนซ์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า การบังคับใช้ข้อห้ามฉบับใหม่กับพลเมืองสัญชาติรัสเซียนี้ มีความเกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มชาติตะวันตกหรือมาตรการควบคุมการใช้สกุลเงินของรัฐบาลรัสเซียที่มีการประกาศออกมาเพื่อพยุงเงินรูเบิลที่ในช่วงที่เกิดการอ่อนค่าอย่างหนักหรือไม่
การต่อสู้ด้านกฎระเบียบของ Binance
ความสัมพันธ์ของไบแนนซ์กับหน่วยงานกำกับดูแลมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้ไบแนนซ์พบว่าการดำเนินการในเขตอำนาจศาลหลายแห่งในยุโรปเป็นเรื่องยาก ซึ่งนำไปสู่การถอนตัวออกจากประเทศต่างๆ เช่น เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และไซปรัส
นอกจากนี้ยังเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายในอเมริกาเหนือ ซึ่งนำไปสู่การถอนตัวจากแคนาดาและการดำเนินการทางกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐอเมริกา (CFTC) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)
มีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐ อาจเตรียมดำเนินคดีอาญาต่อไบแนนซ์ และ CEO ของบริษัท ฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao) เนื่องจาก "ละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐ"
ผู้บริหารหลักหลายคนลาออกพร้อมกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่เผชิญกับการแลกเปลี่ยน แม้ว่า Binance และผู้บริหารบางคนอ้างว่าพวกเขาลาออกด้วยเหตุผลอื่น แต่หลายคนเชื่อว่าพวกเขาลาออกเนื่องจากปัญหาทางกฎหมาย
ความท้าทายทางกฎหมายที่ไบแนนซ์เผชิญยังนำไปสู่ราคาโทเคนของไบแนนซ์ BNB มีมูลค่าลดลงอย่างมาก ขณะนี้ BNB มีราคาเคลื่อนไหวในกรอบต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 206 ดอลลาร์ในวันที่ 22 ส.ค.2566 และมีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่า 200 ดอลลาร์
อ้างอิง The Wall Street Journal
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์