ลุ้น 'บิตคอยน์' แตะ 41,000 ดอลลาร์ จุดเริ่มต้นตลาดคริปโท ‘รีเทิร์น’ ขาขึ้น
“บิตคอยน์” เคลื่อนไหวในกรอบ 35,000 ดอลลาร์ ( ณ วันที่ 27 ต.ค.) หนึ่งในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทน 112% จากระดับ
16,625.08 ดอลลาร์ เมื่อ 1 ม.ค.66 ท่ามกลางปัจจัยที่มีผลกระทบกดดันเศรษฐกิจทั่วโลกขณะเดียวกัน "ตลาดหุ้นไทย" ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันลดลงไปเกือบ 16%
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นครั้งล่าสุดของบิตคอยน์ที่ดึงให้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกปรับตัวขึ้น มากจาก “ข่าวลือ” ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้ราคาปรับตัวขึ้นมาเกือบ 10% จากการประกาศข่าวเกี่ยวกับกองทุน ETF บิตคอยน์ จากสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง
สัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ข่าวสารที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโทฯ ทั้งข่าวดี และไม่ดี มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโทฯ ค่อนข้างมาก จากลักษณะของตลาดคริปโทฯ ที่มีการเปิดเทรดตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง รวมถึงข้อมูลที่มีการเผยแพร่ออกมาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ตลาดคริปโทฯ จับตามอง
รวมทั้งมองว่ายังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเข้าสะสมบิตคอยน์ เนื่องจากวอลุ่มในตลาดยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นสูงมากนัก โดยมองว่าราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว แต่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นใน “ระยะสั้น” ไซต์เวย์ในกรอบ 36,000 - 38,000 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 36,000 - 41,000 ดอลลาร์ หรือถ้าหากปรับตัวลดลงจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 28,000 - 31,000 ดอลลาร์
สืบเนื่องจากกรณีศาลสหรัฐให้ บริษัท เกรย์สเกล อินเวสต์เมนท์ (Grayscale Investments) ซึ่งผู้จัดการกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ ชนะคดีในการแปลง Bitcoin trust (GBTC) เป็น Spot Bitcoin ETF ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่ากองทุนบิตคอยน์จากสถาบันการเงินต่างๆ ที่ยื่นไฟลิ่งนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติเช่นกัน โดยคาดว่ากองทุนบิตคอยน์ของ แบล็กร็อก (Blackrock) มีความน่าจะเป็นถึง 99% ที่จะได้รับการอนุมัติ จากในอดีตที่ผ่านมาแบล็กร็อกยื่นของจัดตั้งกองทุนทั้งหมด 576 ครั้ง ซึ่งไม่ได้รับอนุมัติเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งคาดว่าการอนุมัติจะได้คำตอบในช่วงม.ค.หรือล่าช้าไปถึงช่วงเม.ย.2567
หากกระบวนการอนุมัติบิตคอยน์ ETF ล่าช้าไปถึงช่วงเม.ย.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการคาดการณ์ว่าจะเกิด ฮาฟวิ่ง บิตคอยน์ (Having Bitcoin) นั้นจะไม่กระทบต่อราคาตลาดจนปรับตัวขึ้น 2 เด้ง เพราะจากสถิติแล้ว ฮาฟวิ่ง บิตคอยน์ จะไม่ได้กระชากราคาในตลาดขึ้นโดยทันที แต่จะทำให้ราคาตลาดไซด์เวย์ไปนานเกือบ 1 ปี และถึงช่วงเวลาที่แตะระดับสูงสุดใหม่ All time High อีกครั้งในช่วงปี 2568 ที่กราฟของราคาบิตคอยน์จะเริ่มปรับตัวขึ้นสู่ “ขาขึ้น” อย่างแท้จริง
อภิชัย เอี่ยมไพศาล นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) วิเคราะห์ตลาดคริปโทฯ ในขณะนี้ว่า ราคาบิตคอยน์มีความผันผวนหลังจากข่าวกองทุนบิตคอยน์ ที่ทำให้ราคาบิตคอยน์ขึ้นมายืนเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์อีกครั้ง อาจเป็นสัญญาณการเปิดศักราชใหม่ของตลาด Bull Run “บลูรัน”
โดยมองว่าราคาบิตคอยน์ในระยะสั้นมีแนวรับอยู่ที่ 1.18 ล้านบาท และมีแนวต้าน 1.28 ล้านบาท และภาพรวมตลาดคริปโทฯ มีมูลค่าตลาดปรับตัวขึ้นทะลุ 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะปรับตัวขึ้น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ สำหรับอีเธอเรียม Ethereum (ETH)
แม้ว่าราคาจะกลับมามีวอลุ่มได้ช้ากว่าบิตคอยน์ แต่เชื่อว่าจะกลับมาแน่นอนหลังจากกลับมายืนเหนือวอลุ่มเดิม 6.5 หมื่นบาท และมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 6.6 หมื่นบาท รวมทั้งยังมีเรื่องอัปเกรดระบบอีเธอเรียมในปีหน้า และบรรยากาศการลงทุนในตลาดคริปโทฯที่อาจเข้ามาเป็นปัจจัยสนับสนุน
เนื่องจากยังไม่มีแรงเทขายที่มีนัยสำคัญที่ทำให้ราคาปรับตัวลง และนักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นในตลาดคริปโทฯ อีกครั้ง จากดัชนี Fear & Greed Index ซึ่งบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดที่มี “ความต้องการ” ที่ระดับ 72 จุด ซึ่งเป็นรับสูงสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูสัญญาณต่างๆ ในตลาดคริปโทฯทั้งอีเธอเรียม และอัลคอยน์อื่นๆ เช่นกัน
ทั้งนี้ปัจจัยมหภาคยังคงกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกช่วยสนับสนุนราคาคริปโทฯ ทั้งสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 5% ซึ่งสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ให้ผลตอบแทนลดลง ซึ่งสะท้อนความกังวลของนักลงทุน และเศรษฐกิจว่าหากเหตุการณ์สงครามยังคงทวีความรุนแรงต่อไป จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากจากธุรกิจที่ไม่สามารถไปต่อได้ ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง อย่าง “ทองคำ” และ “บิตคอยน์”
อย่างไรก็ดี กองทุนบิตคอยน์ยังเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนราคาบิตคอยน์ โดยล่าสุด บริษัท กาแล็กซี ดิจิทัล โฮลดิงส์ (Galaxy Digital) ผู้ให้บริการคริปโทเคอร์เรนซี และบล็อกเชนรายใหญ่ในสหรัฐ เผยแพร่บทวิเคราะห์ในการประเมินว่าการอนุมัติกองทุนบิตคอยน์รอบนี้ จะทำให้ภาพรวมราคาบิตคอยน์ใน 1 ปีข้างหน้าปรับตัวขึ้นประมาณ 74% จากการเข้ามาช่วยเรื่องของค่าฟี หรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ถูกกว่า และสภาพคล่องในตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาตลาดที่มีเสถียรภาพต่อราคาปัจจุบันมากขึ้น
หากกองทุน ETF ได้รับการอนุมัติอาจทำให้สถาบันการเงินต่างๆ ในสหรัฐเพิ่มกองทุนบิตคอยน์เข้าไปเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อนำเสนอต่อนักลงทุน โดยมีการประมาณการว่าภายใน 1 ปี จะเข้าถึง 25% เป็นมูลค่ากว่า 14.4 ล้านล้านดอลลาร์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์