‘บิทคับ’ส่ง KUB Coin โกอินเตอร์ หวังเติมเต็มอีโคซิสเต็ม
เหรียญ Kub Coin เริ่มเปิดให้ซื้อขายบนศูนย์ซื้อขายระดับโลก WOO Network หลัง ‘บิทคับ บล็อคเชน’ ประกาศลิสต์เหรียญ KUB ขึ้นกระดาน WOO X เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแผนธุรกิจสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า การนำเหรียญ KUB ซึ่งเป็นเหรียญหลักประจำเครือข่าย และ มีอรรถประโยชน์ (Utility) หลักเป็นการชำระค่าธรรมเนียม (Gas Fee) บนเครือข่ายBitkub Chain เข้าสู่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานจากทั่วโลก ให้สามารถรองรับผู้ใช้งานจากทั่วโลกได้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของเราที่ต้องการจะเปิดรับผู้ใช้งานตลอดจนนักพัฒนาจากต่างประเทศ ให้เข้ามาร่วมใช้งาน Bitkub Chain
โดยหลังจากนี้ โครงการต่าง ๆ ที่เปิดใช้งานไปในปีที่ผ่านมา จะถูกพัฒนาและปรับปรุงให้พร้อมรองรับกับกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต รวมทั้งยังเป็นการชูประสิทธิภาพการใช้งานจริงของเหรียญ KUB ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างการรับรู้สำหรับตลาดสากล และดึงดูดผู้ใช้งานจากทั่วโลกต่อไปในอนาคต
ข้อมูลจากเว็บไซต์คอยน์มาร์เก็ทแคป เผยว่าปัจจุบัน เหรียญ KUB เปิดให้ทำการซื้อขายได้ ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก นอกเหนือจากกระดาน Bitkub Exchange ในประเทศไทย รวมทั้งหมด 7 แห่ง โดยมี 4 ศูนย์ซื้อขายที่มีวอลุ่มเคลื่อนไหว ได้แก่
1.Gate.io ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน โดยบริษัท ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเคย์แมน รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,400 สกุลเงินจากทั่วโลก โดยมีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 847 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหรียญ KUB มีสัดส่วนวอลุ่มอยู่ที่ 1.55%
2.Poloniex ก่อตั้งขึ้นในประเทศสหรัฐ ขณะนี้การแลกเปลี่ยนไม่สามารถใช้งานได้ในสหรัฐ ซึ่งรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 350 สกุลเงินจากทั่วโลก โดยมีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหรียญ KUB มีสัดส่วนวอลุ่มอยู่ที่ 4.01%
3.CoinEx ก่อตั้งขึ้นในประเทศฮ่องกง โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 600 สกุลเงินจากทั่วโลก มีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 28 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหรียญ KUB มีสัดส่วนวอลุ่มอยู่ที่ 0.19%
4.Coinstore ก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัล 100 สกุลเงินจากทั่วโลก มีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ 182 ล้านดอลลาร์
และอีก 2 แห่งไม่มีวอลุ่ม คือ 5.XT.COM ก่อตั้งในประเทศเซเชลส์ มีสำนักงานใหญ่ในดูไบและมีศูนย์ปฏิบัติการในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี และสิงคโปร์ โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัล 800 สกุลเงินจากทั่วโลก มีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ผ่านมาที่ 739 ล้านดอลลาร์
6.DigiFinex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ รองรับสกุลเงินดิจิทัล 449 สกุลเงินจากทั่วโลก มีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ 736 ล้านดอลลาร์
สำหรับการดานล่าสุด 7.WOO X ก่อตั้งในประเทศเซเชลส์ รองรับสกุลเงินดิจิทัล 89 สกุลเงินจากทั่วโลก มีวอลุ่มการซื้อขายเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 31 ล้านดอลลาร์
ภาสกร กล่าวว่า บิทคับเชนมีการขยายการใช้งานทั้งระดับสากลและในประเทศไปพร้อมกัน ล่าสุด Bitkub ประกาศความร่วมมือกับ JFIN โทเคนดิจิทัลที่พัฒนาโดยบริษัทในกลุ่ม JMART ในการรองรับเหรียญ “KJFIN” บน Bitkub NEXT ซึ่งเป็นการสร้างโปรเจกต์ด้านบล็อกเชนและ Web3 ที่สามารถเพิ่มการใช้งานทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งบิทคับเชนและเหรียญ JFIN ในอีโคซิสเต็ม
โดยโทเคน JFIN (KJFIN) คือ เหรียญ JFIN ที่ถูก Wrap เพื่อทำงานร่วมกับ Smart Contract บนเครือข่าย Bitkub Chain ผ่านมาตรฐาน KAP-20 ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 25 JFIN ต่อครั้ง
หลังจากที่มีการประกาศในวันที่ 2 พ.ย. 2566 ด้าน Bitkub Coin (KUB) มีราคาเคลื่อนไหวคงที่ ที่ระดับ 41-42 บาท แต่ในทางตรงกันข้าม ราคาเหรียญ JFIN Coin (JFC) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 11.7% โดยทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 6.65 บาท ก่อนที่เหรียญ KUB และ JFC จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 48.6 และ 6.32 ตามลำดับ ณ เวลาที่รายงาน ( 15.30 น. วันที่ 6 พ.ย.66)
ในเดือน พ.ย. 2566 ระบบนิเวศน์บิทคับเชน มีผู้ใช้งานบิทคับเน็กซ์ ทั้งหมด 1,081,566 คน จากบัญชีกระเป๋าบิทคับเน็กซ์ทั้งหมด 2.2 ล้านบัญชี และมีการทำธุรกรรมมากกว่า 414 ล้านครั้ง และเหรียญ KUB มีจํานวนเหรียญทั้งหมดที่จะปล่อยออกมา 110 ล้านเหรียญ ซึ่งขณะนี้มีเหรียญหมุนเวียนในระบบประมาณ 78 ล้านเหรียญบิทคอยน์