รมว. ดิจิทัล มอง’บล็อกเชน’โปร่งใส ประตูการค้าโกลบอล แนะต้องพร้อมรับเทคใหม่
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว. ดิจิทัล แชร์วิสัยทัศน์ คว้าโอกาสเตรียมความพร้อมสู่ตลาดกระทิง มองว่า’บล็อกเชน’ มีความโปร่งใส ช่วยลดการทุจริต รวมทั้งเป็นประตูสู่การค้าในต่างประเทศในอนาคต ทำให้คนไทยต้องพร้อมเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเป็นแต้มต่อสู่โลกใบใหม่ที่ไร้พรมแดน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) กล่าวใน งาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ว่า ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากที่สุดคือเทคโนโลยีบล็อกเชน
หากประเทศไทยสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชนได้อย่างเต็มที่ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการ ทำงาน ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่าง ๆ
รวมถึงลดความเสี่ยงการทุจริต สร้างความ โปร่งใสและตรวจสอบได้ อีกทั้งเปิดโอกาสทางการค้า ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ สร้างงานใหม่ เกิดธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน เนื่องจากมีความเป็นOpen and Neutral ที่ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และเพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บล็อกเชนได้อย่างเต็มที่
คนไทยทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับมือ ปรับตัว และเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ โดยอาจเริ่มจากการทำความรู้จักกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ศึกษากรณีการใช้งานต่าง ๆ และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อทำให้ก้าวไปสู่โลกใบใหม่ที่ไร้พรมแดนและสร้างประโยชน์ให้คุณได้สูงสุด
นายสัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้จัดงานหลัก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Build in Bear, Rise in Bull” เนื่องจากในช่วงตลาดหมี มักเป็นช่วงที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจโลก นโยบายการเงินของธนาคารกลาง และกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งผลให้ราคา สินทรัพย์ดิจิทัลลดลง
แต่ในทางกลับกัน ในช่วงตลาดหมี ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่จะสะสม สินทรัพย์ดิจิทัลในราคาถูก โดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักใช้ช่วงเวลานี้ในการพัฒนาความรู้และ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
หากเรามองภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล จะพบว่าบิทคอยน์มีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ อีกทั้ง Bitcoin Halving ในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึง และการอนุมัติ Bitcoin SPOT ETF ที่มีแนวโน้มในเชิงบวกขึ้นเรื่อย ๆ
อีกทั้งปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเชิง สถิติของจำนวนบัญชีซื้อขาย และมูลค่าการซื้อขายในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงบริษัทยักษ์ ใหญ่และสถาบันการเงินที่เริ่มเข้ามาลงทุนเพื่อให้บริการในตลาดคริปโทฯ
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็น Cryptocurrency Hub ของ ASEAN เรามีการควบคุมจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเหมาะสม เรามีผู้เล่นมากราย เรามี Community ที่ครอบคลุม และเพื่อผลักดันให้คนไทยมีความพร้อมสำหรับเทรนด์ของอนาคต จึงเกิดเป็นงานบล็อกเชน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ขึ้น
ซึ่งงานในปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา รูปแบบของงานที่หลากหลาย การรวบรวมเหล่าคนดังใน วงการCryptocurrency และ Blockchain ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 170 ท่านมาร่วมพูดคุย เสวนา และให้ความรู้มากกว่า 50 Session บนเวทีทั้ง 3 เวทีภายในงาน