บิตคอยน์พุ่ง แต่ไร้แรงกระตุ้น 'คริปโทไทย' ทำไมราคาไม่ขึ้นเหมือนครั้งก่อนๆ
ย้อนไปในช่วง 2 ปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่าเทรนด์การลงทุน ในยุคที่กระแสของคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency กำลังมาแรงจนทำให้นักลงทุน เข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและร่วมติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกสกุลเงินดิจิทัล รวมทั้งหมดเหรียญ "คริปโท" ด้วยผลตอบแทนอันเย้ายวน
ไม่ได้มีเพียงแค่นักลงทุนเท่านั้นที่สนใจ ฟากของบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยก็สนใจออกเหรียญคริปโท และโทเคนดิจิทัล เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ตามทัน "โลกดิจิทัล" จนหลายๆ เหรียญมีราคาขึ้นไปแตะที่ 500 บาท เติบโตหลายเท่าตัว
แต่สถานการณ์ตอนนี้คงเรียกได้ไม่เต็มปากว่าสภาพตลาดกำลังจะก้าวสู่ "ขาขึ้น" เพราะมีเพียงแค่ "บิตคอยน์" เท่านั้นที่เติบโตไปไกลกว่าเพื่อน เป็นเหรียญเดียวในกระดานที่เติบโตถึงหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน
แล้วทำไมตลาดคริปโท ที่กำลังจะเข้าสู่ "ขาขึ้น" ตอนนี้ ถึงไม่ได้คึกคักเหมือนกับครั้งก่อนๆ สะท้อนจากราคาเหรียญคริปโทสัญชาติไทย ไม่ขยับพลุ่งพล่านเหมือนที่เคยเป็น ไม่แม้แต่พุ่งรับราคาบิตคอยน์ที่ดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือ 50,000 ดอลลาร์ได้ เป็นเพราะอะไรกัน
นายดนัย อรุณกิตติชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารกองทุน บลจ.บัวหลวง เล่าถึงสถานการณ์ตลาดคริปโทโลกว่าตอนนี้มีปัจจัยบวกจากบิตคอยน์ 2 ประเด็นที่เห็นได้ชัดคือ การจัดตั้ง Bitcoin Spot ETF และ Bitcoin Having
กลายเป็นหนึ่งแรงหนุนให้ตลาดหุ้น และคริปโทไทยคึกคัก ตามแรงเก็งกำไรซึ่งผันผวนตามปัจจัยหมภาค อย่างในฟากของตลาดหุ้นไทย "หุ้นกลุ่มคริปโท" ก็ปรับตัวพุ่งรับอานิสงส์เพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายวัน ทั้ง JTS และ XPG
แต่ราคาของคริปโทสัญชาติไทย กลับไม่ไปไหน ดนัย สะท้อนมุมมองที่ชัดเจนที่สุดคือ นักลงทุนด้วย "คุณค่า" ของเหรียญนั้นๆมากกว่า
การเก็งกำไร สภาพตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในตอนนี้มีความแตกต่างจากในขาขึ้นครั้งก่อน นักลงทุนเข้าใจการลงทุนเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น และเข้าใจพื้นฐานการเติบโตของแต่ละเหรียญ ทำให้สภาพคล่องของตลาดมีความแตกต่าง
"อย่างราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเพราะคนเชื่อมั่นและเห็นประโยชน์ของ Spot Bitcoin ETF มากกว่าเหรียญอื่นๆ ทำให้นักลงทุน เลือกซื้อสินทรัพย์เฉพาะตัว มากกว่าการลงทุนทั้งตลาด"
ราคาคริปโทสัญชาติไทยไม่ขยับ
ตอนที่ราคาบิตคอยน์ขึ้นไป 50,000 ดอลลาร์ เหรียญคริปโท ”สัญชาติไทย“ เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นเบาบาง ไม่หวือหวาเหมือนครั้งก่อนๆ
นำโดย Bitkub Coin (KUB) มีหน้าที่เป็น Utility Token บน Bitkub Chain เพิ่มขึ้น 2.59% ไปแตะที่ 73.26 บาท ซึ่งเหรียญ Bitkub Coin เคยทำราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 540 บาทในช่วงปลายปี 2564
ตามด้วย JFIN Coinเป็น Utility Token เพื่อใช้งานของกลุ่มธุรกิจเครือ เจมาร์ทมีราคาเพิ่มขึ้น 1.97% เคลื่อนไหวที่ 11.36 บาท
และ SIX Coin เป็นเหรียญของบริษัท SIX Network ด้วยความร่วมมือจากผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Ookbee และผู้บริหารกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก และบริษัท Computerlogy ลดลง 0.24% เคลื่อนไหวที่ 1.2269 บาท
ปัจจุบันเหรียญคริปโทหลายๆ เหรียญ เริ่มมีราคาปรับตัวขึ้นตาม "มูลค่าที่แท้จริง" ด้วยคุณประโยชน์ของเหรียญที่สามารถใช้งานได้ในโลกดิจิทัล เช่น อีเธอเรียม หรือ โซลาน่า
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์