Bitcoin ทะยานขึ้นสู่ระดับ 62,000 ดอลลาร์ ใกล้แตะราคา'ออลไทม์ไฮ' เดิม
ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) เพิ่มขึ้น 9.4% พุ่งสู่ระดับ 62,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี หรือราว 2.2 ล้านบาท บนกระดานเทรด Bitkub ขณะที่ อุปทานตึงตัว ความต้องการมากกว่ากำลังผลิต ดันราคาบิตคอยน์ ชี้ชะตา 'ออลไทม์ไฮ'
KEY
POINTS
- ราคาบิตคอยน์ เคยทำ All Time High เดิม ที่ 68,000 ดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564
- สินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน
- แรงซื้อเพิ่มขึ้นหนุนวอลุ่มเทรดในตลาดคริปโทพุ่ง
- ตอนนี้ความต้องการบิตคอยน์ มีการซื้อไปมากกว่า 9,000 BTC ในขณะที่นักขุดผลิต BTC ออกได้เพียงประมาณ 900 BTC
ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) เพิ่มขึ้น 9.4% พุ่งสู่ระดับ 62,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี หรือราว 2.234 ล้านบาท บนกระดานเทรด Bitkub ท่ามกลางการมองโลกในเชิงบวกของนักวิเคราะห์ว่า การเพิ่มขึ้นของราคาในครั้งนี้สะท้อนความต้องการและความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดคริปโท
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดได้พุ่งขึ้นมากกว่า 40% ในปีนี้ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น โดยส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จในการเปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนของสหรัฐฯ หรือ Spot Bitcoin ETF ที่มีฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 11 มกราคม
ตอนนี้ ราคา Bitcoin เคลื่อนไหว 62,000 ดอลลาร์ใน ยังไม่ถึงราคาสูงสุดเดิมที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์ เมื่อพฤศจิกายน 2564
อีกปัจจัยที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ Bitcoin Halving โดย Ryan Kim หัวหน้าฝ่ายอนุพันธ์ของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำด้านสินทรัพย์ดิจิทัล FalconX กล่าวว่า Bitcoin Halving ที่จะมีการลดอุปทานลงครึ่งหนึ่ง สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับคริปโท พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อและแรงเก็งกำไรสำหรับเหรียญคริปโทอื่นๆ และเหรียญขนาดเล็กเช่น Ether และ Dogecoin
ถือว่าเป็นการกลับมาของ Bitcoin ได้น่าทึ่ง เพราะมีมูลค่ามากกว่าสามเท่านับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว หลังจากที่อุตสาหกรรม คริปโทเจอกับเรื่องราวเลวร้าย และการล้มละลายที่ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวความมั่นคงของสินทรัพย์ดิจิทัล
รวมทั้งบิตคอยน์ยังมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้นและทองคำในปี 2567 ขณะที่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงในปีนี้ โดยเห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
“การกลับตัวครั้งนี้น่าจับตา เมื่อธนาคารกลางส่งสัญญาณว่าอาจจะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้สูงต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งย้อนแย้งกับทฤษฎีที่ว่าตลาดกระทิงครั้งต่อไปจะถูกขับเคลื่อนโดยการลดอัตราดอกเบี้ย” Michael Safai ผู้ร่วมก่อตั้งของ ของ Dexterity Capital กล่าว
อุปทานบีบตัว เพิ่มแรงกดดันราคาให้สูงขึ้น
ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ การหลั่งไหลเข้าอย่างมหาศาลของ Bitcoin ETF ทำให้นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมบางรายเตือนถึงอุปทานที่บีบตัวลง มีการซื้อไปมากกว่า 9,000 BTC ในขณะที่นักขุดผลิต BTC ออกได้เพียงประมาณ 900 BTC หรือเรียกได้ว่า การผลิตไม่ทันต่อความต้องการ
และนักวิเคราะห์กล่าวว่าอุปทานของ Bitcoin ประมาณ 80% ไม่ได้ถูกเปลี่ยนมือในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้การบีบตัวรุนแรงขึ้น และเพิ่มแรงกดดันด้านราคาให้สูงขึ้น
อ้างอิง Bloomberg