เจาะลึก Bitcoin halving 4 ปีมีครั้ง ปรากฏการณ์นี้จะทำให้ราคารุ่งหรือร่วง?
เจาะลึก Bitcoin halving คืออะไร ทำไมถึงเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เพราะราคาบิตคอยน์ทำนิวไฮใหม่ก่อนฮาล์ฟวิ่งไปแล้ว ปรากฏการณ์ครั้งที่ 4 จะทำให้ราคารุ่งหรือร่วง?
"บิตคอยน์ ฮาล์ฟวิ่ง" Bitcoin Halving กำลังจะมาถึงอีกครั้ง ในวันที่ 19-20 เมษายน 2567 หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนสายเลือดบล็อกเชนให้ความสนใจ และคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก
วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” จะพาไปเจาะลึก Bitcoin Halving ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้บ้าง
- Bitcoin halving คืออะไร?
Bitcoin halving จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวน Bitcoin ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นลงครึ่งหนึ่ง กลไกการทำงานของ Bitcoin ถูกออกแบบโดย ซาโตชิ นากาโมโตะ(Satoshi Nakamoto) ผู้สร้าง Bitcoin ให้มีจำนวนเหรียญทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ
โดยโปรแกรมถูกตั้งค่าให้ลดรางวัลสำหรับการขุด Bitcoin ใหม่ลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 210,000 บล็อก และจะใช้เวลาประมาณ 4 ปี หมายความว่า จำนวน Bitcoin ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจะลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี
Bitcoin halving เกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1: 28 พฤศจิกายน 2555 เป็นครั้งแรกของ Bitcoin halving โดยรางวัลบล็อกลดลงจาก 50 Bitcoin ต่อบล็อกเหลือ 25 Bitcoin ต่อบล็อกเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่การเป็นสินทรัพย์เงินฝืดของ Bitcoin
- ครั้งที่ 2: 9 กรกฎาคม 2559ลดรางวัลบล็อกลงจาก 25 Bitcoin เหลือ 12.5 Bitcoin ต่อบล็อก
- ครั้งที่ 3: 11 พฤษภาคม 2563 ลดรางวัลบล็อกลงจาก 12.5 เป็น 6.25 Bitcoin ต่อบล็อก
แล้วบิตคอยน์จะฮาล์ฟวิ่งกี่โมง? ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน ในวันที่ 19-20 นี้ ซึ่งจะลดรางวัลบล็อกจาก 6.25 Bitcoin เหลือ 3.125 Bitcoin ต่อบล็อก
Bitcoin Halving อาจไม่ส่งผลดีต่อราคา
ขณะเดียวกันมีคนโต้แย้งว่าราคาปัจจุบันสะท้อนถึงการลดลงของปริมาณแล้ว นักลงทุนบางคนเชื่อว่าผลกระทบของ Halving น่าจะถูกคำนวณไว้ในราคาปัจจุบันของบิตคอยน์แล้ว ดังนั้นราคาหลังจากเกิด Bitcoin Halving แล้วอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
รวมทั้งปริมาณบิตคอยน์ที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่มาจากนักขุด แต่ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเหมืองขุดคริปโท เช่น จำนวนบิตคอยน์ที่ถือครองและจะขายบิตคอยน์ตอนไหน นั้นมีความโปร่งใสต่ำ หากนักขุดเหล่านี้เทขายบิตคอยน์อาจส่งผลให้ราคาร่วงลง บวกกับกลไกของตลาดคริปโทนั้นซับซ้อน ข้อมูลที่มีจำกัด ทำให้ยากที่จะคาดการณ์ว่าปัจจัยอะไรมีผลต่อราคาบิตคอยน์บ้าง
สรุปแนวโน้มราคาหลัง Bitcoin Halving
โดยรวมแล้วราคา Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากเหตุการณ์ Halving แต่ผลตอบแทนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรอบ
ข้อมูลจากอดีต
- หลัง Halving ปี 2012: ราคา Bitcoin พุ่งจาก 12 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะ 1,000 ดอลลาร์ ภายใน 1 ปี
- หลัง Halving ปี 2016: ราคา Bitcoin พุ่งจาก 650 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะ 19,700 ดอลลาร์ภายใน 18 เดือน
- หลัง Halving ปี 2020: ราคา Bitcoin พุ่งจาก 8,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะ 69,000 ดอลลาร์ ภายใน 1 ปี
แต่อย่าลืมว่าผลลัพธ์ในอดีตไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต เพราตลาดคริปโทมีความผันผวนสูงและปัจจัยอื่นๆ มากมายที่อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin ล่าสุด Bitcoin แตะจุดสูงสุดใหม่ก่อนการ Halving ประมาณ 1 เดือน ยังเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์ไม่คาดคิดมาก่อน
Bitcoin Halving ครั้งนี้อาจนำไปสู่ภาวะ “Supply Shock”
การลดลงครึ่งหนึ่งของ Bitcoin ในครั้งนี้ อาจส่งผลรุนแรงกว่ารอบก่อนๆ เนื่องจากปัจจัยสองประการหลัก คือ 1. รางวัลการขุดที่ลดลงจะส่งผลให้ Bitcoin ใหม่หมุนเวียนในตลาดน้อยลง และ 2. สถาบันการเงินซื้อบิตคอยน์เพิ่มขึ้น จากความสนใจของสถาบันการเงิน และกองทุน Bitcoin ETF ได้ดึงดูดนักลงทุนสถาบัน ซึ่งแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นนี้กดดันให้ราคา Bitcoin สูงขึ้น
และอาจนำไปสู่ภาวะ Supply Shock ที่เมื่อปริมาณ Bitcoin ที่มีอยู่ในตลาดสำหรับการซื้อขายอาจลดลงอย่างมากและอาจส่งผลต่อความผันผวนของราคา Bitcoin ที่จะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลได้เตือนซ้ำๆ ว่า Bitcoin เป็นตลาดเก็งกำไร ที่ขับเคลื่อนโดยกระแสและ "FOMO" (Fear Of Missing Out) และก่อให้เกิดอันตรายที่แท้จริงต่อนักลงทุน แม้ว่าพวกเขาจะอนุมัติผลิตภัณฑ์การซื้อขาย Bitcoin ไปพร้อม ๆ กันก็ตาม
อ้างอิง chainalysis, reuters