ก.ล.ต. มีมติปรับเกณฑ์ ICO portal สามารถ outsource ระบบงานเพิ่มเติมได้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผย คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบให้ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO portal) สามารถมอบหมายงานให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับดำเนินการ (outsource) ได้ทุกระบบงาน รวมถึงงานตรวจสอบและสอบทานข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (due diligence) บางส่วน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับลักษณะการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมระบบนิเวศของการให้บริการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token) รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลได้อย่างเหมาะสม

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 13/2567 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO portal) ในเรื่องการมอบหมายงานให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับดำเนินการ (outsource) เพื่อให้สามารถ outsource งานที่เกี่ยวข้องกับ ICO portal ได้ทุกระบบงาน รวมถึงงานตรวจสอบและสอบทานข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (due diligence) บางส่วน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมบทบาทของผู้ประกอบธุรกิจในฝั่งหลักทรัพย์ (traditional player) เพื่อสร้างความสมบูรณ์และเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token) ได้อย่างแพร่หลาย รวมทั้งส่งเสริมทางเลือกในการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ
 

ในกรณีของงาน due diligence นั้น ICO portal จะสามารถมอบหมายให้บุคคลอื่นรับดำเนินการในงาน due diligence (1) ด้าน Business (เช่น ข้อมูล issuer แผนธุรกิจ โครงการโทเคนดิจิทัล เป็นต้น) หรือ (2) ด้าน Technology (ได้แก่ ชุดรหัส (source code) ในสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) หรือกลไกอื่นที่นำมาใช้ทดแทน smart contract) ทั้งนี้ ICO portal ต้องขออนุญาต ก.ล.ต. ก่อนมอบหมายงานที่เกี่ยวข้องกับงาน due diligence ดังกล่าว

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับ ICO portal ได้แก่ การนำส่งและเปิดเผยงบการเงิน และการดำเนินการกับ ICO portal ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเหมาะสมในการกำกับดูแล ICO portal

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะดำเนินการยกร่างประกาศเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และออกประกาศบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป