‘เจอโรม พาวเวลล์’ ยันเฟดไม่ซื้อ ‘บิตคอยน์’ ทุบราคาดิ่ง 99,000 ดอลลาร์

‘เจอโรม พาวเวลล์’ ยันเฟดไม่ซื้อ ‘บิตคอยน์’ ทุบราคาดิ่ง 99,000 ดอลลาร์

‘เจอโรม พาวเวลล์’ ยันเฟดไม่ซื้อ ‘บิตคอยน์’ เข้าคลังสำรองเพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ ย้ำต้องผ่านสภาครองเกรสก่อน ทุบราคาดิ่ง 99,000 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 1 อาทิตย์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า  ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ”เจอโรม พาวเวลล์“ กล่าวว่า เฟดไม่มีต้องการมีส่วนร่วมกับรัฐบาลภายใต้การนำของ “โดนัล ทรัมป์” ที่จะพิจารณาเก็บ “บิตคอยน์” จํานวนมากเป็นกองทุนสำรองบิตคอยน์ทางยุทธศาสตร์ หรือ “Strategic Bitcoin Reserve” หลังจากเข้ารับตำแหน่ง

พาวเวลล์ยันชัดเจนว่า ”เฟดไม่มีอำนาจในการถือครองบิตคอยน์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องผ่านการพิจารณาร่างกฎหมายโดยสภาคองเกรส อย่างไรก็ดี “เราไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง”

ขณะเดียวกัน ราคาบิตคอยน์ ปรับตัวลดลงราว 4% มาอยู่ที่ระดับ 99,000 ดอลลาร์ในช่วง 09.00 น. ของวันนี้(19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 อาทิตย์ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์

 

‘เจอโรม พาวเวลล์’ ยันเฟดไม่ซื้อ ‘บิตคอยน์’ ทุบราคาดิ่ง 99,000 ดอลลาร์

ความคิดเห็นของพาวเวลล์ทําให้มูลค่าของบิตคอยน์ลดลง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับสินทรัพย์คริปโตอื่น ๆ นับตั้งแต่ชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. เกี่ยวกับโอกาสของแนวทางของรัฐบาลที่ปล่อยมือมากขึ้นไปยังสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ไม่ค่อยทําหน้าที่เป็นเงินจริง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นพาหนะสําหรับการเก็งกําไร

กองทุนสำรองบิตคอยน์ทางยุทธศาสตร์ คล้ายกับรูปแบบของกองทุนยุทศาสตร์น้ำมันสำรอง  โดยที่จะนับรวมบิตคอยน์ที่ยึดมาได้จากอาชญากร ซึ่งมีประมาณ 200,000 เหรียญบิตคอยน์ มูลค่าประมาณ 21,000 ล้านดอลลาร์ในราคาปัจจุบัน

‘กองทุนบิตคอยน์’ เสี่ยงต่อสเถียรภาพการเงิน

ซินเธีย ลัมมิส วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อสร้างสำรองดังกล่าว โดยกระทรวงการคลังสหรัฐจะซื้อบิตคอยน์ 200,000 เหรียญต่อปีเข้าคลัง จนกว่าจะถึง 1 ล้านเหรียญ ซึ่งการซื้อดังกล่าวจะได้รับเงินทุนจากเงินฝากของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการถือครองทองคำ

Barclays คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจไม่เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าว เนื่องจากบิตคอยน์มีความผันผวนสูงและอาจสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน

นอกจากนี้ Barclays ที่ชี้ให้เห็นว่า การตัดสินใจที่สำคัญเช่นการจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อบิตคอยน์ในปริมาณมากนั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและการอภิปรายที่ยาวนาน และเพื่อระดมทุนจำนวนมหาศาลสำหรับการซื้อบิตคอยน์ กระทรวงการคลังอาจต้องพิจารณาการออกตราสารหนี้ชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาระหนี้ของรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ย