คลังเตรียมชงคณะรัฐมนตรีเพิ่มเงินสมทบ กอช.
คลังเตรียมชง ครม.เพิ่มเงินสมทบ กอช.เพื่อเป็นเงินออมไว้ดูแลสมาชิกหลังวัยเกษียณให้มีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนในอัตราที่เหมาะสม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเงินสมทบจากภาครัฐให้สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อเป็นเงินออมไว้ดูแลสมาชิก กอช. หลังวัยเกษียณ ให้มีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนในอัตราที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันอัตราที่ได้รับเงินหลังเกษียณถือว่าต่ำเกินไป ส่วนจะสมทบในอัตราเท่าใดนั้น คาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งจะต้องมีการเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม. อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุด้วย เนื่องจากประเทศไทย ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิตด้วย
“การเพิ่มเงินเดือนให้สมาชิก กอช. หลังวัยเกษียณ เป็นแนวคิดที่จะดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ จะได้มีเงินเลี้ยงดูแลตัวเองหลังอายุ 60 ปีขึ้นไป ถึงแม้วัยเกษียณไปแล้ว แต่ยังทำงานได้ และยังมีเงินเดือนจาก กอช. มาสมทบแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บางส่วน"
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ “นโยบายการขับเคลื่อนระบบประกันสุขภาพเพื่อสังคมผู้สูงอายุ และความยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทย" ในงานเปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรสุดยอดผู้นำวิทยาการประกันภัยระดับสูง (Super วปส.) รุ่นที่ 2 ว่า ในช่วงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพ และการทำประกันสุขภาพมากขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงในชีวิตหลังเกษียณ
เขากล่าวด้วยว่า แม้ปัจจุบันโควิดจะคลี่คลายลง แต่ก็ยังมีการกลายพันธุ์ ดังนั้นจึงเป็นอีกปัจจัยที่ภาคธุรกิจประกันจะต้องนำมาพิจารณาเพื่อสร้างระบบความคุ้มครอง ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารความเสี่ยง เพื่อให้ผู้ซื้อประกันได้รับความคุ้มครองตามที่ได้เสียเงินในการซื้อเบี้ยประกันภัยไว้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์