SCB เผย ธปท.ไฟเขียว 'แบงก์ไทยพาณิชย์' ’จ่ายปันผล’ 6.1 หมื่นล้าน แก่บริษัท
SCB เผย ธปท. อนุมัติ แบงก์ไทยพาณิชย์ จ่ายปันผล6.1 หมื่นล้าน ให้แก่บริษัท พร้อมนำเงินใช้ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการซื้อหุ้น บริษัทลูกจากธนาคาร -เอสซีบี เท็นเอกซ์ -ใช้เป็นเงินทุนให้แก่ บริษัทในกลุ่ม จำนวน 12 บริษัท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จากเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 ได้มีมติอนุมัติหลักการที่จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม ตามงบการเงินเฉพาะธนาคารล่าสุด (เงินปันผลจากกำไรสะสม) จำนวนประมาณ 70,000 ล้านบาท ให้แก่บริษัท เอสซีบี เอกซ์ และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ของธนาคาร เพื่อให้ เอสซีบี เอกซ์ ใช้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ
รวมถึงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ ครั้งที่ 199 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 ได้อนุมัติเปลี่ยนจำนวนเงินปันผลจากกำไรสะสมดังกล่าวเป็นจำนวนเงินประมาณ 61,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี2564 ที่ได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ไปก่อนที่การแลกเปลี่ยนหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นหุ้นของ เอสซีบี เอกซ์ จะแล้วเสร็จ โดยมีเงื่อนไขให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมได้ภายหลังจากได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย นั้น
ทั้งนี้เอสซีบี เอกซ์ แจ้งว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้เห็นชอบให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมจำนวน 61,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคาร และกรรมการธนาคาร ในการประชุมครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 จึงได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมดังกล่าวแล้ว ซึ่ง เอสซีบี เอกซ์ จะได้รับเงินปันผลตามสัดส่วนที่ถือหุ้นที่ 99.06% และจะนำเงินจำนวนนี้ไปใช้ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการซื้อหุ้น บริษัทลูกจากธนาคาร และ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด และใช้เป็นเงินทุนให้แก่ บริษัท ในกลุ่ม จำนวน 12 บริษัท
โดยเงินจำนวนนี้จะไม่ได้ใช้เพื่อปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของ เอสซีบี เอกซ์ โดยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและเงินปันผลประจำปี จากผลการดำเนินงานปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้น เอสซีบี เอกซ์ จะเป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริษัทต่อไป
สำหรับการได้รับเงินปันผลดังกล่าวเป็นหนึ่งในความคืบหน้าที่สำคัญของ เอสซีบี เอกซ์ ในการดำเนินการตามกลยุทธ์ เพื่อก้าวเป็นบริษัท เทคโนโลยี ทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค โดยเอสซีบี เอกซ์ จะเดินหน้าหาโอกาสในการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้นโดยเร็ว ในขณะที่ธนาคารภายหลังการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมครั้งนี้ ยังมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและยังคงศักยภาพในการประกอบธุรกิจรวมทั้งการให้บริการแก่ลูกค้าที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและครบวงจร
ทั้งนี้บริษัทที่ เอสซีบี เอกซ์ จะซื้อหุ้น และลงทุนจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ จำนวน 12 บริษัท ได้แก่
1.บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด)
2. บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด
3. บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด
4. บริษัท มันนิกซ์ จำกัด
5. บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด
6. บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด
7. บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด
8. บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด
9. บริษัท อัลฟ่า เอกซ์จ จำกัด
10. บริษัท เอไอเอสซีบี จำกัด
11. บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด
12. บริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัดขอแจ้งให้ทราบว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือลงวัน
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวว่า “กระบวนการโอนเงินปันผลจากกำไรสะสมของธนาคารไทยพาณิชย์มาที่ เอสซีบี เอกซ์ ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในความคืบหน้าที่สำคัญของ เอสซีบี เอกซ์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรตามยุทธศาสตร์ “ยานแม่”
โดยหลังจากนี้ภาพการทำธุรกิจของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น มีศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มฯ ในหลายด้าน สามารถขยายตัว และพัฒนาธุรกิจได้อย่างเต็มที่ มีความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในระดับโลกอย่างทัดเทียม
สามารถบรรลุเป้าหมายในการนำพาองค์กรก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น และนำพาประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน