คลังแนะผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส5รอบเก็บตกเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันนี้
คลังแนะผู้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส5รอบเก็บตกเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันนี้ โดยมีลงทะเบียนกว่า 8.2 ล้านราย รวมผู้ได้สิทธิทั้งหมดกว่า 24.2 ล้านราย ปัจจุบันมรยอดใช้จ่ายสะสมกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการเปิดลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดย ณ วันสิ้นสุดการลงทะเบียนดังกล่าวมีประชาชนได้รับสิทธิเพิ่มเติมจำนวน822,188 คน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการเปิดลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดย ณ วันสิ้นสุดการลงทะเบียนดังกล่าวมีประชาชนได้รับสิทธิเพิ่มเติมจำนวน822,188 คน
ทั้งนี้ เมื่อนับรวมกับจำนวนผู้ได้รับสิทธิก่อนหน้านี้ที่ใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนดอีกจำนวน 23.40 ล้านคน ทำให้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ได้รับสิทธิรวมทั้งสิ้น จำนวน 24.22 ล้านคน
โฆษกกระทรวงการคลังยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ (วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565) ประชาชนที่ลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือและได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถเริ่มใช้จ่ายได้เป็นวันแรกกับผู้ประกอบการร้านค้าที่ร่วมโครงการ โดยผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 รอบสิทธิคงเหลือจะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เหมือนประชาชนที่ได้รับสิทธิทุกรายก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ จะสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 22.59 น. ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยจะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันอาทิตย์ที่16 ตุลาคม 2565 เวลา 22.59 น. (ภายใน 14 วัน นับจากวันแรกที่เปิดให้เริ่มใช้จ่าย) มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ
ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่องจนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้หนึ่งรายผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน
สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
โฆษกกระทรวงการคลังเผยว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 37.46 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมทั้งสิ้น 34,945.04 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.05 ล้านคน และมียอดใช้จ่าย 3,847.79 ล้านบาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.01 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 275.87 ล้านบาท
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) จำนวน 23.24 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 30,617.50 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายใหม่ฯ) จำนวน 158,417 คน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 203.88 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 23.40 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 30,821.38 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 15,667.70 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 15,153.68 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 12,782.44 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 6,252.14 ล้านบาท ร้านOTOP 1,463.78 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 9,792.58 ล้านบาท ร้านบริการ 493.02 ล้านบาท และกิจการขนส่ง 37.42 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 9.63 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.23 หมื่นราย
ทั้งนี้ การใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดใช้จ่ายสะสมของร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มียอดใช้จ่ายสะสม 1,055.68 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 546.69 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 508.99 ล้านบาท โดยใช้จ่ายกับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม จำนวน 8.03 หมื่นราย