ลงทุนแบบ Flexible คว้าโอกาสในทุกภาวะ ด้วยแนวคิด “Core & Satellite”

ลงทุนแบบ Flexible คว้าโอกาสในทุกภาวะ  ด้วยแนวคิด “Core & Satellite”

ช่วง 2-3 ปีมานี้ นักลงทุนต้องเจอกับตลาดที่มีความผันผวนสูงแทบจะต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีเหตุการณ์ระดับโลกและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ได้รับผลกระทบและผันผวนสูงขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งเราต่างไม่สามารถหลบเลี่ยง ‘ความผันผวน’ ที่อยู่คู่กับการลงทุนได้ ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงที่ดีจะช่วยลดความผันผวนให้กับพอร์ตของเราได้ในระยะยาว

หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้จัดพอร์ตเพื่อพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินในระยะยาวและยังช่วยให้รับมือกับความผันผวนของตลาดได้ คือ Core & Satellite

Core portfolio (พอร์ตหลัก)

เป็นพอร์ตที่เน้นการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว และมีการกระจายการลงทุนที่หลากหลายทั่วโลก ทั้งในด้านประเภทสินทรัพย์ ภูมิภาค และอุตสาหกรรม เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพและช่วยลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตหากมีสินทรัพย์ กลุ่มธุรกิจ หรือภูมิภาคใดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยพอร์ตนี้ควรมีสัดส่วนราว 70-80% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด

 

Satellite portfolio (พอร์ตเสริม)

เป็นพอร์ตสำหรับการลงทุนในสิ่งที่เชื่อมั่นหรือต้องการเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในภูมิภาคหรือภาคธุรกิจเฉพาะด้านที่คุณสนใจ เช่น หุ้นญี่ปุ่น, กลุ่มธุรกิจ Healthcare, และ Clean Tech หรือคุณอาจสนใจและอยากเน้นการลงทุนในบางสินทรัพย์เป็นพิเศษ เช่น ทองคำ และ ตราสารหนี้สีเขียว 

แต่พอร์ตเสริมควรมีสัดส่วนน้อยกว่าพอร์ตหลัก หรือราว 20-30% ของพอร์ตทั้งหมด เพราะพอร์ตเสริมที่สร้างขึ้นมักเป็นการลงทุนที่กระจุกตัวจึงอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า

โดยล่าสุด StashAway เปิดตัว Flexible Portfolio พอร์ตที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างและปรับสัดส่วนจาก 35+ สินทรัพย์ทั่วโลกผ่าน ETF ที่ได้คัดสรรคุณภาพมาแล้ว ซึ่งพอร์ตนี้เหมาะกับแนวคิด Core & Satellite และยังช่วยให้นักลงทุนเข้าใจระดับความเสี่ยงของพอร์ตที่ออกแบบเองเป็นเปอร์เซนต์ (%) อย่างชัดเจน

อย่างแรก หากคุณต้องการสร้าง Flexible เป็นพอร์ตหลัก คุณสามารถเลือก ‘พอร์ตต้นแบบ’ ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับคุณ ซึ่งมีให้เลือก 5 ระดับ

โดยพอร์ตต้นแบบนี้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีเพราะมีการกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลกอยู่แล้ว จากนั้นนักลงทุนสามารถเพิ่ม-ลด หรือปรับสัดส่วนแต่ละสินทรัพย์ได้ตามต้องการ

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Flexible คือ หลังจากคุณปรับพอร์ตในแบบที่ชอบแล้ว ระบบจะคำนวณระดับความเสี่ยงของพอร์ตและผลการดำเนินงานย้อนหลังของพอร์ตให้คุณเห็นทันที ตาม Asset Allocation หรือ สัดส่วนสินทรัพย์ที่คุณกำหนดไว้ 

นอกจากนี้ Flexible Portfolio ยังสามารถตอบโจทย์เฉพาะด้วยการเป็นพอร์ตเสริมได้เช่นกัน โดยคุณสามารถสร้าง Flexible และเลือกลงทุนเฉพาะสินทรัพย์ที่คุณต้องการได้เลย เช่น คุณอาจสนใจลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่, ธุรกิจ Consumer Tech, กลุ่มธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

หรือ ในช่วงที่ภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างในปัจจุบัน คุณก็สามารถสร้างพอร์ตเพื่อลงทุนเฉพาะในพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อทั่วโลก (Global Inflation-linked Government Bonds) ได้ และไม่ว่าคุณจะมีกี่กลยุทธ์ก็สามารถสร้าง Flexible เพื่อตอบโจทย์ได้ไม่จำกัดจำนวน

สิ่งสำคัญ คือ เมื่อมีพอร์ตเสริมแล้วนักลงทุนควรทบทวนและมองภาพรวมเสมอว่า พอร์ตนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนหลักของคุณหรือไม่ และคอยประเมินภาพรวมการจัด Asset Allocation อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่า พอร์ตการลงทุนไม่กระจุกตัวในสินทรัพย์ใดมากจนเกินไป

การลงทุนทั่วโลก ไม่จำเป็นต้องเริ่มลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่เสมอไป คุณสามารถเริ่มลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนที่หลากหลายได้ด้วย เงินเริ่มต้นที่เท่าไหร่ก็ได้ 

และนั่นคือความตั้งใจของ “ StashAway”  ที่อยากทำให้การลงทุนทั่วโลกเป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพสูงสุด และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน