“เคแบงก์” เฟ้น 6 สินทรัพย์ทางเลือก เพิ่มผลตอบแทน สู้เศรษฐกิจถดถอย
“เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง” แนะกลยุทธ์ลงทุน 6 สินทรัพย์ทางเลือก เพิ่มผลตอบแทน คาดหวังเฉลี่ย 8-20%ต่อปี ช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนรับมือช่วงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยปีหน้า ขณะเดียวกันพบลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในไทยเกือบ 30% มีแผนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนทางเลือก
ตลาดทุนปี 2565 มีความผันผวนต่อเนื่อง ผลตอบแทนในเกือบทุกสินทรัพย์หลักลดลงแรง และดัชนี MSCI World ปรับลดลงไปแล้วถึง 20% ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้ยังเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 30 ปีที่ผลตอบแทนทในหุ้นและตราสารหนี้ ปรับลดลงพร้อมกัน และเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสินทรัพย์ปรับลดลงมากถึง 20% ประกอบกับปัจจุบันในสภาวะที่เงินเฟ้อได้กลายเป็นปัญหาระยะยาว และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
ขณะที่ “เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง" พบว่า สินทรัพย์ทางเลือก ที่เป็น “สินทรัพย์นอกตลาด” ที่ไม่ต้องตีมูลค่าตามราคาตลาด ทำให้ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีในภาวะตลาดผันผวน จะช่วยให้สามารถปรับพอร์ต กระจายความเสี่ยงลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่พอร์ตลงทุนมั่นคงมากขึ้นในอนาคต
นายตรีพล ภูมิวสนะ ผู้บริหาร ไพรเวท แบงก์กิ้ง บิซิเนส เฮด ไพรเวท แบงก์กิ้ง กรุ๊ป ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่อยู่ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้ากลุ่ม “เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง" แตะ 1 ล้านล้านบาท มีจำนวนลูกค้า เพิ่มขึ้น 5% อยู่ที่13,000 ราย มาจากทายาทของลูกค้ากลุ่มครอบครัวเป็นหลักและสินทรัพย์ทางเลือกได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจล่าสุดโดย Lombard Odier (ลอมบาร์ด โอเดียร์) ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา ความผันผวนของตลาดทุนอาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่เป็นลบเป็นความกังวลลำดับแรกของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย โดยกว่า 50% ได้ปรับพอร์ตการลงทุนของตน โดยใช้บริการหรือรับคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านการลงทุน และเกือบ 30% มีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
ล่าสุด "เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง" เดินหน้ากลยุทธ์นำเสนอนวัตกรรมการลงทุนทางเลือกใหม่ๆ คัดเลือกสินทรัพย์ทางเลือก 6 กองทุน ได้แก่ กองทุนทางเลือก, หุ้นนอกตลาด, อสังหาริมทรัพย์นอกตลาด, กองทุนให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ และหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ และยังสอดคล้องไปกับธีมการลงทุนแห่งอนาคต เพื่อเป็นทางรอดให้กับนักลงทุนต่อไป
สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก 6 กองทุน ยังให้ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยที่ดี 8-20% ดังนี้
1.กองทุนทางเลือกที่กลยุทธ์ลงทุนยืดหยุ่น (Quantitative Hedge Fund) เฉลี่ย 8-9%ต่อปี
2. กองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลก (Global Private Equity Fund) เฉลี่ย 18-20% ต่อปี
3. กองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดทั่วโลก (Global Private Real Estate Fund) เฉลี่ย 8%ต่อปี
4. กองทุนระดมเงินลงทุนเพื่อให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน (Private Credit Fund) เฉลี่ย 8-10%ต่อปี
5. อสังหาริมทรัพย์ไทยนอกตลาด (Thai Private Real Estate) เฉลี่ย 10-15%ต่อปี
6. หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบ Knock-In Knock-Out (KIKO) เฉลี่ย11-13% ต่อปี
นายตรีพล กล่าวว่า เราแนะนำลูกค้า "เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง” ที่มีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์อยู่แล้ว ปรับพอร์ต โดยกระจายการลงทุนมายังสินทรัพย์ทางเลือก สัดส่วน 20% ของพอร์ตลงทุน และแต่ละกลยุทธ์สัดส่วนไม่เกิน 5% ช่วงให้พอร์ตลงทุนมีผลตอบแทนดีขึ้นและเพิ่มสัดส่วนถือเงินสด 8-15%ขอพอร์ตลงทุน ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศยังมีความผันผวนสูง
พร้อมกันนี้ "เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง” ร่วมกับ Lombard Odier ได้ตั้งกองทุนระดมเงินลงทุนเพื่อให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน (Private Credit Fund) ครั้งแรกในไทย เตรียมเสนอขายครั้งแรก วันที่ 25พ.ย.-2 ธ.ค.นี้ มูลค่ากองทุน 2,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท
สำหรับกองทุนนี้เป็นการให้สินเชื่อโดยตรงแก่ภาคธุรกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ในตลาดยุโรปและสหรัฐ โดยจุดเด่นในการให้สินเชื่อโดยตรงลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate) ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป