“ออโต้ เอกซ์” ส่งแบรนด์ “เงินไชโย” รุกจำนำทะเบียนรถ ปักธง 5 ปีเข็นเข้า IPO
“ออโต้ เอกซ์” ประกาศเดินหน้าบุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนภายใต้แบรนด์ “เงินไชโย” ตั้งเป้าก้าวสู่ Top 3 ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนชั้นนำของเมืองไทยภายในปี 2568 ด้วยยอดสินเชื่อคงค้าง 7 หมื่นล้านบาท ฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านราย พร้อมนำบริษัท ทำ IPO ภายใน 5 ปี
ด้วยเหตุนี้เองเราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยปลดล็อกความเครียดให้กับคนไทยได้กลับมามีความสุข และร้องไชโยได้อีกครั้ง และวันนี้เราพร้อมที่จะเดินหน้าให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียน และวงเงินพร้อมใช้ภายใต้แบรนด์ “เงินไชโย” เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่เราเปิดให้บริการ “เงินไชโย” แบบ soft launch เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี
ดังนั้นคาดว่า สิ้นปีประมาณการมีฐานลูกค้าจำนวน 80,000 คน สามารถปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนได้กว่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 50% สินเชื่อรถยนต์ 25% และสินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ 25%
สำหรับ สินเชื่อจำนำทะเบียนของ “ไชโย” เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน ที่มีเพดานดอกเบี้ยอยู่ที่ 24% ที่สามารถใช้รถมอเตอร์ไซค์ รถกระบะ รถการเกษตร หรือโฉนดที่ดินเพื่อใช้มาขอสินเชื่อได้ โดยต้องเป็นทรัพย์สินที่ต้องปลอดภาระแล้ว
ทั้งนี้ การมาเล่นในตลาดจำนำทะเบียน เชื่อว่า มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจาก เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน และส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ทำมาหากิน และการปล่อยสินเชื่อของบริษัท จะจำกัดการปล่อยสินเชื่อ(LTV)อยู่ที่ราว 50-60%เท่านั้น เพราะเชื่อว่า หากปล่อยสูงเกินไป อาจทำให้มีปัญหาชำระหนี้ตามมาได้ ดังนั้นจะเน้นดูความสามารถชำระหนี้เป็นหลัก
ส่วนการผ่อนชำระ จะผ่อนชำระได้ทั้งรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน หรือผ่อนชำระได้ตามรอบฤดูกาลผลิต เช่น รอบเก็บเกี่ยวข้าว อ้อย ฯลฯ
“การผ่อนชำระ เราไม่ได้ชาร์ตเต็มเพดานทุกรายที่ 24% แต่ดูตามอายุรถ ซึ่งอายุรถที่จะนำมาขอกู้ได้อายุจะไม่เกิน 23 ปี ทั้งนี้หากดูสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบัน เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ 40% รถกระบะ 40%และรถอื่นๆ ซึ่งเราเชื่อว่าโอกาสเกิดหนี้เสียต่ำ เพราะเราปล่อยไม่มากไม่เกิน 50%ของหลักประกัน และส่วนใหญ่เป็นรถที่เขาใช้ทำมาหากิน เขาคงไม่ยอมทิ้งหลักประกัน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจ บริษัทปักธงภายในปี 2568 จะมีฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านราย มียอดสินเชื่อคงค้าง 7 หมื่นล้านบาท มีสาขาทั่วประเทศจำนวน 3,000 สาขา สามารถสร้างกำไรแตะระดับ 3 พันล้านบาท และมี ROE มากกว่า 25% พร้อมก้าวสู่หนึ่งในผู้นำสามอันดับแรกของผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนของเมืองไทย ปูทางสู่การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ (IPO) ในปี 2570
“การนำบริษัท เข้าIPO จะต้องเห็นสินเชื่อคงค้างถึงเป้าหมายที่ 70,000 ล้านบาท บริษัทก็สามารถนำบริษัทเข้า IPOได้ทันที ไม่ต้องรอให้ถึง 5ปี ตามที่ตั้งเป้าไว้ ขณะเดียวกัน การเข้าสู่ IPO ได้ อาจต้องเห็นกำไรระดับ 3,000 ล้านบาท”
นอกจากสินเชื่อจำนำทะเบียน ล่าสุดบริษัทได้รับใบอนุญาต เพื่อประกอบธุรกิจแล้ว 3 ไลเซนส์ คือ สินเชื่อจำนำทะเบียน สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อพีโลน
ดังนั้นคาดว่าอีก 2 ปี หรือปี 2567 ที่จะเห็นบริษัทเข้าไปในธุรกิจอื่นๆ มากขึ้นในระยะข้างหน้า เมื่อบริษัทมีข้อมูล มีดาต้าลูกค้ามากขึ้น จะเอื้อให้บริษัทเข้าไปทำธุรกิจอื่นๆ ได้ง่ายมากขึ้น และเห็นพฤติกรรมลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงได้ง่ายในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์ในการรุก สินเชื่อจำนำทะเบียน “เงินไชโย” ตั้งเป้าบุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนภายใต้ 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่
1.เข้าใจ – พฤติกรรม ความคิด ความต้องการทางการเงิน รวมถึง pain point ของลูกค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (unbanked) และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า banded pack ซึ่งประกอบไปด้วยสินเชื่อที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ได้เต็มวงเงินอนุมัติ รวมถึงแถมประกันฟรีในทุกสัญญา อนุมัติไว ได้เงินภายใน 1 ชั่วโมง
2.เข้าถึง – มุ่งมั่นให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้มากยิ่งขึ้น จึงได้พัฒนาช่องทางการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ สาขาเงินไชโยจำนวนกว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ ตัวแทน (agent) แอปพลิเคชันเงินไชโย และ Line Connect เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการถึงบ้าน (home delivery) รวมถึงพันธมิตรต่างๆ
3. พึ่งได้ – ด้วย “บัตรเงินไชโย” จ่ายเงินต้นไปเท่าไร สามารถกดเงินใช้เพิ่มได้เท่านั้น ไม่มีค่าธรรมเนียม ค่างวดเท่าเดิม ไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่ม กดฟรีทุกตู้ ATM ทั่วประเทศ และเพราะปัญหาทางการเงินอาจเกิดขึ้นได้ทุกวัน “สาขาเงินไชโย” จึงเปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับลูกค้า
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
